อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนรวยนั้นรวย? และอะไรคือสิ่งที่ต่างกันระหว่างคนรวย vs คนชั้นกลาง
มาดูข้อแแตกต่างระหว่างคนรวยและคนชั้นกลาง 10 ข้อแล้วพัฒนาตัวเองไปด้วยกันนะ
หากอยากสอบผ่าน ให้ลอกคนสอนผ่าน
ถ้าเผลอไปลอกคนสอบตก ผลลัพธ์ก็คงเหมือนคนสอบตก
หากอยากสำเร็จจงเรียนรู้จากคนสำเร็จ!
จากหนังสือ The Top 10 Distinctions Between Millionaires and the Middle Class โดย Keith Cameron Smith เล่มนี้ https://amzn.to/3OcF3RR
อยากหาเงินลองดูเพลย์ลิสท์นี้
หนังสือพัฒนาความคิดการเงิน
https://s.lazada.co.th/s.9Owdo?cc
1. ความคิด คนรวยคิดไกลเป็นปี คนชั้นกลางคิดเป็นเดือน
2. คำพูด คนรวยพูดถึงไอเดีย คนชั้นกลางพูดถึงสิ่งของ ส่วนคนจนพูดเรื่องคนอื่น
3. การเปลี่ยนแปลง คนรวยโอบกอดการเปลี่ยนแปลง และปรับตัว คนชั้นกลางต่อต้านและคิดกับการเปลี่ยนแปลงว่าเป็นภัยคุกคาม
4. ความเสี่ยง คนรวยยินดีรับความเสี่ยงที่ผ่านการพิจารณา คนชั้นกลางกลัวที่จะรับความเสี่ยง ส่วนคนจนแยกความเสี่ยงกับการพนันไม่ออก
5. การเรียนรู้ คนรวยเรียนรู้ตลอดชีวิต คนชั้นกลางชื่อว่าการเรียนจบลงที่มหาวิทยาลัย
6. กำไร vs #ค่าจ้าง
7. การทำบุญช่วยเหลือ
8. ความหลากหลายของรายได้
9. แหล่งที่มาของรายได้
10. การตั้งคำถาม
อาจจะลองใช้เป็น 10 Checklist ของตัวเอง
เพื่อวัดว่าเราทำเหมือนคนสำเร็จกี่ข้อแล้วก็ดีนะ
ช่องทางติดต่อ
Line : https://line.me/ti/p/0wX5wlMYUF
Instagram : https://instagram.com/maxphira?igshid…
Instagram Name : Maxphira
#พัฒนาตัวเอง #podcast #หาเงินออนไลน์
#หารายได้เสริม #mindset #checklist #เช็คลิสต์ #passiveincome #สรุปหนังสือ #หนังสือเสียง #คนรวย #อิสระภาพทางการเงิน
25 Comments
ชอบค่ะ แต่แรกๆเสียงเพลงดังไปหน่อย ไม่มีเพลงฟังชัดกว่า ติดตามค่ะ
ข้อสุดท้ายเคยพยายามคิดแบบคนรวยครับ ลงทุน 1 แสน เงินเก็บเกือบทั้งชีวิต ให้คนรวยระดมทุนลงทุนไป สุดท้ายเสียหมด เราหมดหน้าตัก บ้านก็ไม่มี แต่คนรวยเค้าเศษเงินมีบ้านราคา 10 ล้าน กินเที่ยวสบายใจเหมือนเดิม ล้มแต่ละครั้งมันเจ็บไม่เท่ากัน เรามันเจ็บหนักจริงๆ แทบไม่มีแรงลุก เลยต้องคิดแบบคนชั้นกลางเกือบล่างนั่นแหละครับ 😢
ເນື້ອຫາດີມາກກກ❤
ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูลดีๆแต่ไม่ได้เป็นเศรษฐีตามระดับที่คุณจัด แต่ความคิดตรงกับกลุ่มเศรษฐีที่คุณจัดทุกข้อเลยค่ะ เลยคิดว่าทฤษฎีที่หนังสือเล่มนี้กล่าวมาไม่น่าจะถูกต้องสักเท่าไหร่ คิดว่าชนชั้นล่าง กลาง สูง บางคนก็คิดแบบนี้หลายคนอยู่เหมือนกันค่ะ เช่นความรู้ไม่ได้จบแค่มหาวิทยาลัย การลงทุนมองระยะยาว และควรจะรู้จักแบ่งเงินมาลงทุนสร้างรายได้ให้งอกเงยค่ะ
เสียงชัดมากเลย อยากทราบเป็นความรู้ได้มั้ยคะ ใช้ไมค์อะไรหรอคะ 🙇🏻♀️
ชอบน้องมากกกกเลยค่ะ ฟังง่าย เห็นภาพ เปลี่ยนมายเซ็ท สร้างแรงบันดาลใจ ได้ความรู้เพื่อใช้ทำได้จริง
เนื้อหาดีมากค่ะชอบ 👏👏
ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆนะครับ❤😊
การลงทุนในความรู้มีแต่กำไรค่ะ❤
เป็นคนมีมายด์เซตแบบในคลิปประมาณ8-9ข้อใน10ข้อค่ะแต่ครอบครัวไม่มีมายด์เซตแบบนี้เลยเวลาคุยกันเหนื่อยมากเลยเลือกจะไม่คุยดีใจที่คลิปนี้ยืนยันว่าความคิดเรามันไม่ได้ผิดแปลกและเราก็เป็นคนที่มีมากกว่าทุกคนในครอบครัวจริงๆ
ถูกต้องครับ แต่คุณยังเข้าใจไม่ถึงแก่นบางข้อ ให้ไปทำความเข้าใจ ข้อ 3 กับ ข้อ 10 เพิ่มนะครับ ด้วยความปราถนาดี ใบ้ให้ว่าเหรียญมีสองด้าน มันเป็นเรื่องของการบริหารความเสี่ยง
แนวคิดหลายข้อที่พูดมาเป็นแนวคิดที่ดี ที่ไม่ว่าเศรษฐีหรือไม่ใช่เศรษฐีก็ควรมีและมีได้ อย่างไรก็ตาม เราไม่คิดว่าแนวคิดเหล่านี้จะใช้ชี้วัดได้ว่าคนคนหนึ่งเป็นเศรษฐีหรือไม่เป็น เพราะเป็นแนวคิดที่พบได้ในหลายคนที่เป็นชนชั้นกลางหรือล่าง
สิ่งที่จะชี้วัดว่าใครเป็นเศรษฐีได้อย่างแม่นยำคือจำนวนเงินและทรัพย์สิน สมมุติลูกเศรษฐีคนหนึ่งเพิ่งลืมตาดูโลก เด็กคนนั้นยังไม่รู้เรื่อง ยังคิดตามแนวคิดที่ว่ามาในคลิปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าพ่อแม่เศรษฐีโอนที่ดินให้ลูก เด็กคนนั้นก็เป็นเศรษฐีไม่ใช่เหรอ
การผลิตซ้ำแนวคิดที่บอกว่าชนชั้นล่างชอบทำอะไรที่สังคมดูถูก เช่นการนินทา ในขณะที่เศรษฐีชอบทำอะไรที่คนยกย่อง เช่นการพูดเรื่องไอเดียน่ะ มันค่อนข้างเป็นแนวคิดแบบโทษเหยื่อพอสมควรเลย
หรือบางที แนวโน้มเหล่านั้นอาจจะมาจากสถานการณ์ชีวิตที่ถ้าเสี่ยงแล้วมีราคาต้องจ่ายเยอะกว่าก็เป็นได้ เช่นชนชั้นแรงงาน บางทีก็ไม่กล้าลองไม่กล้าทำอะไรแปลกใหม่ เช่นไม่กล้าสั่งอาหารที่ตัวเองไม่เคยกิน เพราะถ้าสั่งแล้วกินไม่ได้ขึ้นมา ก็เท่ากับค่าข้าวในวันนั้นปลิวหายไปโดยที่ท้องไม่อิ่มใช่ไหม
อ้อ แต้มเรื่องไอเดียนิดนึงก็ได้ เราคุยกับเพื่อนบ่อยๆว่าที่จริงเงินไม่ได้เป็นตัวสะท้อนคุณค่าหรือทรัพยากรแท้จริง โลกอาจมีเงินหมุนเวียนมหาศาล แต่ไม่ได้สะท้อนถึงทรัพยากรทั้งหมดที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ เช่นจานข้าวจากโรงงานอุตสาหกรรม ตอนแรกขาย 300 บาท ตอนหลังลดราคา50% แล้วมวลของจานข้าวมันหายไป 50% ด้วยหรือเปล่า ปกติก็ไม่นี่นา
ในเมื่อเงินเป็นสิ่งสมมุติ เราเลยคิดว่า แล้วทำไมเราไม่กำหนดให้โลกนี้มีเงินไร้ที่สิ้นสุดไปเลยล่ะ ทุกคนจะได้มีเงินเยอะๆ เหมือนที่พระเจ้าสามารถมีอำนาจไร้ที่สิ้นสุด เงินก็มีจำนวนไร้ที่สิ้นสุดได้เหมือนกัน แน่นอนระบบเศรษฐกิจจะพังเละเลยล่ะ แต่ถ้าเราหาวิธีปรับสังคมให้เข้ากับระบบแบบใหม่โดยพยายามทำให้ทุกคนมีโอกาสมากที่สุดเหมือนๆกันได้ มันอาจจะแก้ปัญหาการเหลื่อมล้ำได้ก็ได้
ໍอาจจะไม่รู้อยู่จุดไหน แต่เชื่อว่าการได้ดูคลิปนี้ อาจเป็นจุดแรกของความคิด ของการเปลี่ยนแปลงก็ได้ 😊
ทำไมเกิดการเลือกตั้งแล้ว เจ้าสัวประเทศไทยไม่เห็นจะยอมให้เกิดการเปลียนแปลงเลย😅
ผมตื่นสาม 08.20 น แต่1วันผมทำเงินได้ วันระ 5000 บาท ทุกวัน มันอิสรภาพไไหมครับ
6 กับ 7 ไม่ค่อยใช่
6. คนรวย หารายได้จากการสร้างระบบให้คนอื่นทำงานแทน ยิ่งมีคนทำงานแทนมาก และหลายลำดับขั้นเท่าไหร่ การทำงานหนักของแต่ละคน จะเป็นส่วนต่างของกำไรจากการจ่ายค่าแรงต่อจำนวนชั่วโมงแรงงานที่ทำ กลับมาเป็น profit ของนายจ้าง คนรวยจะไม่เอาแรงตัวเองไปแลกเงิน แต่จะยืมเอาแรงจากคนอื่นไปแลกเงิน แล้วเอาส่วนต่างจากแรงของคนที่ทำกำไรให้เราตรงนั้นมาเป็นกำไรของตัว …คนรวยจะทำงานหนักในเรื่องที่ secure และ manage ทรัพย์สิน ไม่ใช่ด้านใช้แรงแลกทรัพย์สิน
7. คนรวยใช้การทำบุญเพื่อสร้าง csr ให้เกิดแรงกระเพื่อมแล้วย้อนกลับมาเป็น profit ให้องค์กร คนชั้นกลางทำบุญเพื่อความสบายใจและกำจัดความไม่สบายใจ ส่วนคนจนทำบุญเพื่อหวังให้สิ่งที่ทำกลับมาแก้ไขความทุกข์ของตัวเองเองโดยผลบุญ แต่ไม่ใช่แก้ที่ต้นเหตุแบบอริยสัจ 4
อิทธิพลทางธุรกิจ..
ขอบคุณค่ะ🎉
ส่วนคัวเชคง่ายๆ จากความรู้ทางการเงินอันดับเเรก อันดับต่อมาเป็นมายด์เซทในการบริหารธุรกิจ รองลงมาเป็นเรื่องของการรับฟังความเห็นของผู้อื่น
ฮึ้ย มีครบทุกข้อแล้วแสดงว่าเราจะเป็นเศรษฐีได้🎉ตอนนี้ผลิตเงินโดยไม่ต้องลงแรงได้กำไรเดือนละ20,000ละฮะ ถ้าได้เดือนละล้านจะมาอัพเดต ฮิฮิ ขอบคุณสำหรับคลิปดีดี กดติดตามแล้วค่ะ
ขอบคุณพี่แม็กสำหรับแนวคิดดีๆค่ะ สรุปเข้าใจง่ายมากเลยย🫶🏻✨️
เราคิดไกลไปถึงตัวเองตายเลยนะ แสดงว่าชั้นอยุ่ในชนชั้นรวย 555 ตังไม่มี
เลอะเทอะ ผมก็เป็นคนนึงที่มีเงิน 12 หลักผมไม่เห็นจะคิดเหมือนที่คุณบอกเลย
❤ เยี่ยมมากค่ะ ถ่ายทอดออกมาเป็นสไตล์ตัวเอง ได้ดีเลย🎉 Aคนรวย Bคนชั้นกลาง Cคนจน
1. คิดไกล>คิดเดือนต่อเดือน คิดวันต่อวัน
> ซื้อที่ดิน ว่างเปล่า แต่คนซื้อกลับมองเห็นอนาคต…👍
> เศรษฐี มองหาอิสรภาพในการใช้ชีวิตไม่ใช่มีแต่บ้าน_ที่ทำงาน คนชั้นกลางมองหาความสะดวกสบาย
2. คำพูด เศรษฐีพูดถึงไอเดีย> มองขาดถึงธุรกิจที่ช่วยคนแก้ปัญหา
>พูดถึงเป้าหมายในอนาคตเสมอ
3. Aยอมรับธรรมชาติ Bปฏิเสธหรือต่อต้านการเปลี่ยนแปลง
4. Aยินดีรับความเสี่ยงที่ผ่านการพิจารณา Bกลัวความเสี่ยง Cแยกไม่ออกระหว่างความเสี่ยงกับความบ้าบิ่น
5.A เรียนรู้ตลอดชีวิต Bการเรียนจบลงที่มหาลัย
> ทุกบ้านเศรษฐีจะมีสิ่งที่เหมือนกันคือห้องหนังสือ
> เราจ่ายเงินให้กับการเรียนรู้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
>ดูหนัง 150 บาทได้ความสุขซื้อหนังสือ 300 ได้ความรู้ต่อยอดที่จะมีอนาคตที่ดี
6. Aมองกำไรจากการทำงานหนัก Bมองค่าจ้างรายชั่วโมง
7. Aทำบุญช่วยเหลือแบ่งปันตลอดตามงบที่มี Bรอให้รวยก่อน
> ช่วยเหลือคนไม่ใช่เฉพาะเรื่องเงินอย่างเดียว อาจเป็นเรื่องเวลา เป็นที่ปรึกษาทางความคิด
8. คนรวยมีรายได้หลายทางคนชั้นกลางยึดมั่นในรายได้ทางเดียว
> ความมั่นคงเราไม่ได้ถูกวัดว่าเราทำงานตำแหน่งอะไร แต่ถูกวัดกันตอนที่เราทำงานไม่ได้ต่างหาก
> บ้านมีประตูหนีไฟ รถมียางอะไหล่ =รายได้สำรอง =ชีวิตที่ไม่ประมาท
> ชีวิตที่ไม่คิดว่าจะเจอวิกฤตนั่นคือชีวิตที่วิกฤต ที่ประเมินค่าไม่ได้
9. เศรษฐีมีรายได้จากทรัพย์สินเหมือนปลูกพืชยืนต้น
> เราไม่สามารถทำงานได้ตลอดชีวิตแต่เรามีรายจ่ายตลอดชีวิต
10. เศรษฐีตั้งคำถามที่เป็นบวกและสร้างกำลังใจ คนชั้นกลางตั้งคำถามเป็นลบ
> ทำได้จะได้อะไร VSทำไม่ได้จะเสียอะไร
> ทำไม่ได้VS ทำอย่างไรให้มันทำได้ให้มันคืนทุน🎉
❤❤❤ เยี่ยมมากๆค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ