1 ชีวิต แลกกับ 5 ชีวิต คุณเลือกทางไหน? ทดสอบจริยธรรมคุณด้วย Trolley Problem | Shortcut ปรัชญา EP.31

22 พฤศจิกายน 2567



ทำไมการบอกว่าอะไรดีหรือไม่ดีจึงยาก แล้วเราควรเลือกทางไหนดี?

Shortcut ปรัชญา เอพิโสดนี้ ชวนคุยเรื่อง Trolley Problem หรือปัญหารถราง การทดลองทางความคิดเชิงปรัชญา ที่มีสถานการณ์สมมติว่า หากเราเป็นคนขับรถรางแล้วเห็นว่าข้างหน้ามีคน 5 คนอยู่บนราง แต่เราสามารถสับรางเพื่อเปลี่ยนไปอีกเส้นทาง แต่จะทับคน 1 คนแทน เราจะเลือกทางไหน?

จากสถานการณ์สมมตินี้นำมาสู่คำถามสำคัญทางปรัชญาว่า สรุปแล้วความดีคืออะไร เรามีมาตรวัดความดีที่เป็นสากลไหม การกระทำหนึ่งๆ ดีเพราะตัวการกระทำ หรือดีเพราะผลลัพธ์กันแน่ แล้วในชีวิตจริงล่ะ หลักการไหนถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีและถูกต้อง?

ชวนคิดชวนถามกับ ภาคิน นิมมานนรวงศ์ และ ฟาง-รัฐโรจน์ จิตรพนา

Time Index:
00:00 Highlights
00:42 ความดีวัดได้จริงไหม?
14:41 Trolley Problem
37:16 ตัวอย่าง Trolley Problem ในชีวิตจริง
41:01 คำถามทิ้งท้าย

อ้างอิง:
1. ประเด็นเรื่องโครงการเติมคนดีให้สังคม อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ‘รด. ร้องโครงการเติมคนดี 1 ล้านคนให้สังคม ทำไม่ได้ต้องซ้ำชั้น ถามทำด้วยใจหรือบังคับ’ (https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9407493)
2. ใครสนใจปรัชญาจริยศาสตร์ (Ethics) ขั้นพื้นฐาน ผมแนะนำหนังสือภาษาไทย 3 เล่ม คือ
‘ความยุติธรรม’ โดย ไมเคิล แซนเดล แปลโดย สฤณี อาชวานันทกุล สำนักพิมพ์ซอลท์ (https://salt.co.th/product/justice/)
‘ปรัชญาทั่วไป’ โดย โสรัจจ์ หงศ์ลดารมภ์(https://www.chulabook.com/history-religion-culture-politics-government/25620)
‘จริยศาสตร์ภาคปฏิบัติ’ (Practical Ethics) โดย ปีเตอร์ ซิงเกอร์ แปลโดย เหมือนมาด มุกข์ประดิษฐ์ สำนักพิมพ์คบไฟ(https://www.chulabook.com/history-religion-culture-politics-government/174539)
3. อ่านข้อถกเถียงและการประยุกต์ใช้แนวคิด ‘Trolley Problem’ ทั้งในทางปรัชญา การเมือง เศรษฐศาสตร์ และประสาทวิทยาศาสตร์ ได้จาก
‘Trolley problem #1: การเสียสละเพื่อส่วนรวมเป็นเรื่องที่ถูกต้องทางจริยธรรมเสมอไปหรือไม่?’ โดย ตะวัน มานะกุล (https://www.the101.world/hard-choices-ep-1/)
‘ความเหลื่อมล้ำที่ไม่เหมาะสม ความหงุดหงิดที่ชอบธรรม’ โดย ตะวัน มานะกุล (https://www.matichonweekly.com/column/article_746374)
‘สมองเราเป็นอย่างไร เมื่อต้องตัดสินใจเชิงจริยธรรม’ โดย ชัยภัทร ชุณหรัศมิ์ (https://www.the101.world/brainbug-ep-7-trolley-problem/)
‘จะปล่อยให้คนเดียวตายหรือว่าห้าคนตายดี’ โดย ณัฐวุฒิ เผ่าทวี https://thaipublica.org/2015/04/nattavudh-14/)
4. ข้อถกเถียงของ ฟิลิปปา ฟุต ที่พูดถึงในอีพีนี้มาจากบทความ ‘The Problem of Abortion and the Doctrine of the Double Effect’ (https://philpapers.org/archive/footpo-2.pdf)
5. เข้าไปเล่น Moral Machine ได้ที่ https://www.moralmachine.net/ และอ่านข้อถกเถียงเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ใน ‘Should a self-driving car kill the baby or the grandma? Depends on where you’re from’ (https://www.technologyreview.com/2018/10/24/139313/a-global-ethics-study-aims-to-help-ai-solve-the-self-driving-trolley-problem/)

กดติดตาม และ กดกระดิ่ง: https://bit.ly/45KZn3w

ติดตาม THE STANDARD PODCAST ในช่องทางอื่นๆ

Website: https://www.thestandard.co/podcast
Twitter: https://twitter.com/TheStandardPod
Facebook: https://www.facebook.com/thestandardth
TikTok: https://www.tiktok.com/@thestandard.podcast
Spotify: https://bit.ly/3NhRWZg
Apple Podcasts: https://bit.ly/42OGIkI
SoundCloud: https://soundcloud.com/thestandardpodcast

#Trolley #TrolleyProblem #Shortcutปรัชญา #TheStandardPodcast #TheStandardTh #TheStandardCo #podcast

20 Comments

  • @TheStandardPodcast 22 พฤศจิกายน 2567 at 11:13:16

    Time Index:
    00:00 Highlights
    00:42 ความดีวัดได้จริงไหม?
    14:41 Trolley Problem
    37:16 ตัวอย่าง Trolley Problem ในชีวิตจริง
    41:01 คำถามทิ้งท้าย

  • @bilixbu 22 พฤศจิกายน 2567 at 18:29:11

    1:15 มีค่าาไม่ทำติดมผ.ด้วยแย่มากก

  • @chussanapin-ngoen4815 22 พฤศจิกายน 2567 at 18:33:42

    มันมีคุณสมบัติแบบ อัตวิสัย (Subjectivity) แตกต่างไปตามแต่ละคน มีลักษณะเชิงสัมพัทธนิยม (Relativism) ที่กำหนดโดยข้อตกลงทางสังคมเพื่อให้ยอมรับว่าเป็นวัตถุวิสัย (Objectivity) แต่แท้จริงไม่ใช่ สิ่งเหล่านี้ทำให้บุคคลและสังคมมีมาตรวัดเรื่อง ถูกผิดดีชั่ว แตกต่างกันไปตามมโนธรรมสำนึกที่หล่อหลอมมาจากสังคมประกิต และจากระดับของการตัดสินจากระดับอารมณ์ความรู้สึกไปจนถึงระดับความรู้ในด้านจริยศาสตร์ Ethics) ไปจนถึงความเชื่อในอภิปรัชญา (Metaphysics) ที่เชื่อต่างกัน จึงยากจะให้การตัดสินดังกล่าวจะไปในทิศทางเดียวกันเพราะมันเป็นนามธรรม ไม่อาจจะนำมาชั่งตวงวัดกันได้แบบวิทยาศาสตร์ครับ

  • @surachatsuveekumnuanthip3407 22 พฤศจิกายน 2567 at 18:42:39

    ฟังเพลินมากครับ รบกวนขอ shortcut ของ ฆีออร์ค เอฟ เอช เฮเกล ครับ

  • @punpong9615 22 พฤศจิกายน 2567 at 18:45:35

    2:34 initiating social credit score.

  • @failogy 22 พฤศจิกายน 2567 at 18:48:41

    อธิษฐานขอให้พระเจ้าช่วยตัดสินใจแทน แล้วโยนเหรียญ หัว-ก้อย

  • @zakra2607 22 พฤศจิกายน 2567 at 18:51:58

    การที่หมอไปฆ่าคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเพื่อไปช่วยคนอื่นหลายคน ผลกระทบมันไม่ได้จบที่มีคนตาย 1 คนน่ะสิครับ
    แปลว่าทุกคนมีสิทธิโดนบูชายันเพื่อให้คนอื่นจำนวนมากกว่า 1 คนมีชีวิตรอด
    จะสร้างความวิตกในสังคมและความไม่เท่าเทียมว่าใครจะถูกเลือกไปตาย
    ถ้าเปลี่ยนคน 1 คนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเป็นนักโทษประหาร อาจจะง่ายขึ้นเพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะโดนโทษประหาร

  • @Airriness 22 พฤศจิกายน 2567 at 18:52:20

    หลานเรียนรด ก็โดนบังคับให้ทำ และยังต้องมี downline เพิ่มอีก 4 คนเพื่อทำความดีเพิ่มเข้าไปอีก ถึงจะผ่านด้วยครับ

  • @dacryoid 22 พฤศจิกายน 2567 at 18:53:31

    นั่นอาจไม่ใช่แค่การทำดี แต่นั่นเป็นการทำฟรีด้วย ก็เป็นได้

  • @Jiradsin 22 พฤศจิกายน 2567 at 19:33:30

    สร้างภาพ ต้องถือกล้อง

  • @Sakana-Nakara 22 พฤศจิกายน 2567 at 19:54:23

    ตอบคำถามรถรางว่าการกระทำไหนถูกต้องครับ ผมจะปล่อยให้รถรางวิ่งไปบนทางของมันแม้จะทับคน 5 คน ครับ ถ้าการวิ่งทางตรงบนรางนี้คือความปกติ คน 5 คน ไม่สมควรมานอนขวางบนทางที่ควรจะเป็น ไม่ถูกไม่ผิด ไม่ดีไม่ชั่ว รถของผมมันแค่วิ่งตรงไปของมันอย่างนั้น (คิดแบบเร็วๆขอตอบประมาณนี้ก่อนครับ)

  • @PNatsgallery 22 พฤศจิกายน 2567 at 19:55:27

    ไม่แน่ใจว่าหลักการที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มันไปตรงกับกลุ่มนักคิดไหนรึเปล่า แต่เรามองว่า “การทำดีมันต้องดีใจทุกการตัดสินใจ” เพราะ process ที่ดีจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ เราไปรอว่าเราตัดสินใจแบบอิเหละเขะขะ หลับหูหลับตาทำแล้วผลักภาระไปว่า “ก็คิดว่าผลลัพธ์มันจะดี“​ มันไม่มีทางที่จะดีได้เท่าแบบแรก เพราะพื้นฐานมันไม่มีอะไรดีเลย

    ยกตัวอย่างจากวงการวิจัยและการทดลองที่ได้สัมผัสมาแล้วกัน แน่นอนว่าผลลัพธ์ของวงการนี้มันคือผลงานวิชาการตีพิมพ์ ในโลกแห่งความจริงก็มีคนตกแต่งผลการทดลองเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวย โปรไฟล์เราก็ดี เรียนจบก็เร็ว แต่พฤติกรรมแบบนี้ความจริงแล้วมันจะส่งผลถึงชุดความคิดไปด้วยว่า ”ทำผิดเพื่อให้ผลดีก็ได้ (ตราบใดที่ไม่มีใครมาตรวจสอบ)“ เพราะผลงานของคุณมันไม่ได้ถูกต้องตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ในทุกขั้นตอน ดังนั้นถ้าใครถาม หรือมีการตรวจสอบขึ้นมา ก็เรียกว่า ซวยกันทั้งบาง ทั้งตัวคุณเอง อาจารย์ที่ปรึกษา สถาบัน แม้กระทั่งรุ่นน้อง รุ่นพี่ของคุณจะโดนตั้งคำถามในความสามารถไปหมด ตลอดการเรียนหลายปีทำให้รู้ว่า การตัดสินใจจะคงตัวอยู่ในความดีและความถูกต้องตลอดเวลา จริงๆ มันยากมากนะ แค่ก้าวเท้าผิดไปครั้งเดียว คุณอาจไม่สามารถไปสู่เส้นทางที่ดี ที่ถูกต้องได้อีกเลย แต่การต้องฝึกฝนสิ่งนี้หลายปีมันก็ทำให้เรา คิดถึงเรื่องความถูกต้องอยู่เสมอ ต่อให้มันจะไม่ได้พาเราไปสู่จุดที่ดีที่สุดเทียบเท่ากับคนที่ใช้วิธีการอื่น แต่มันจะไม่ทำให้เราตกต่ำแน่ ๆ

    ส่วนเรื่อง ศีล จริง ๆ มันมีดีเทลมากกว่านั้น อย่างเรื่องขับรถไฟ ถ้าเอาตามหลักการของศีล 1) สิ่งนั้นมีชีวิต 2) รู้ว่าสิ่งนั้นมีชีวิต 3) คิดจะฆ่าสิ่งนั้น 4) มีความเพียรที่จะทำให้ตาย 5)สัตว์นั้นตายลงด้วยความเพียรนั้น คนขับรถไฟก็ไม่รู้ว่าคนยังมีชีวิตอยู่ไหม และไม่ได้คิดจะฆ่า และไม่ได้มีความเพียรที่จะทำให้ตาย มันก็ไม่ได้ผิดศีลนะคะ ไม่ได้ถือว่าทำความดี แต่ก็ไม่ชั่ว สมัยพุทธกาล อริยสงฆ์ ที่ตาบอดและเหยียบมด สัตว์เล็ก ๆ ตายก็มี แต่มโนกรรมมันไม่เกิด มันก็ไม่ได้ต้องโทษอาบัติ

  • @DanuPaoXD 22 พฤศจิกายน 2567 at 19:58:36

    ยกตัวอย่างเคสที่ใกล้กว่านั้น ระหว่าง
    1.จับคนสมัครใจ 100 คนมารมเชื้อเพื่อทดสอบวัคซีนโควิด19 เพื่อเซฟคนนับล้าน
    กับปล่อยให้เชื้อแพร่กระจายไปเรื่อยๆ ค่อยๆทดสอบในสัตว์ทดลองต่อไป เสียเวลาเป็นปี
    อเมริกาเลือกที่จะปล่อยให้เป็นอย่างหลัง
    2.เราสามารถโคลนนิ่งนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกที่เสียชีวิตไปแล้ว เพื่อพัฒนาโลกให้ไกลยิ่งขึ้น
    แทนการโคลนแค่แกะ เพราะติดเรื่องจริยธรรมการทดลอง แต่โลกเลือกที่จะไม่ทำอย่างนั้น
    ผมอยากถามความคิดเห็นคนดูคลิปนี้ มีแนวคิดอย่างไรบ้างครับ

  • @rimlight1299 22 พฤศจิกายน 2567 at 20:02:46

    ถ้าเป็นระดับการปกครองเจอเหตุการณ์ที่ต้องเลือกแบบนี้อยู่

    สมมุติมีงบก้อนเงินใช้ป้องกันน้ำท่วมให้กลุ่มเล็ก แต่รัฐไม่มีงบพอ ต่อมางบไม่พอสำหรับ คนกลุ่มใหญ่
    รัฐต้องเลือกระหว่างปล่อยให้น้ำไม่ท่วมกลุ่มเล็กๆหรือโยกงบไปให้กลุ่มใหญ่แล้วปล่อยให้กลุ่มเล็กท่วม
    ซึ่งในการปกครองแทบจะยึดหลักประโยชน์คนส่วนใหญ่เป็นหลัก
    เทียบกับ trolley problem คือ โยกรถไฟไปเหยียบ 1 คนแทน

  • @Arme.555 22 พฤศจิกายน 2567 at 20:07:12

    โดดออกจากรถรางเพราะไม่อยากฆ่าใคร ผิดกฎหมายข้อหาละเลย แต่สำเร็จโทษตัวเองไปแล้ว😂

  • @user-urg4gf0d5 22 พฤศจิกายน 2567 at 20:21:41

    มีคนบอกว่าถ้าปล่อยให้รถวิ่งปกติแล้วไปเหยียบ5คน เวลาขึ้นศาลเราจะอธิบายได้ง่ายกว่า (รอดตัวง่ายกว่า) 😅

  • @ittipatduangthaworn5230 22 พฤศจิกายน 2567 at 20:24:57

    Super Thanks ถือเป็นหนึ่งในการทำความดีมั้ยครับ 😸

  • @theglory807 22 พฤศจิกายน 2567 at 20:42:29

    สำคัญที่เจตนาปล่อยรถร่างไปตามทางของมันแม้จะเหียบ5คนก็ตาม ถ้าเลือกสับรางก็เท่ากับมีเจตนาฆ่าคน แม้จะเศร้าที่ 5 คนต้องตายแต่ก็ไม่ได้มีเจตนาที่ต้องฆ่า แล้วที่สำคัญไม่มีใครควรไปอยู่บนรางแบบนั้นตั้งแต่แรกครับ

  • @PNatsgallery 22 พฤศจิกายน 2567 at 20:44:10

    ถ้าเป็นคนขับรถไฟ จะดูก่อนว่าบนรถไฟที่บรรทุกอยู่คืออะไร ถ้าไม่มีคนอยู่ก็คงเบรคให้รถไฟมันตกรางไปเลย อย่างน้อยเราก็ได้ทำอย่างเต็มที่เพื่อไม่เหยียบใครแล้ว สินค้าทั้งหมดมันทำใหม่ได้ แต่ชีวิตคนมันกู้คืนไม่ได้

    จริง ๆ ก็ตอบยาก เพราะว่ามันมีปัจจัยอีกล้านแปดที่ตัดสินใจได้มากกว่าแค่จะเหยียบกี่คน

  • @manu47193 22 พฤศจิกายน 2567 at 20:46:01

    จอดรถไฟครับ ไม่ก็โดดลง 555

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *