ชื่อทฤษฎีคือ สัมพัทธภาพ ไม่ใช่ สัมพันธภาพ << ไม่เกี่ยวกับไอน์สไตน์และอวกาศ สัมพัทธภาพของไอน์สไตน์มี2แบบคือ ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ (Special Theory of Relativity) << ไอน์สไตน์คิดอันนี้ได้ก่อน เกี่ยวกับพวก time dilation เวลาหดตัวตามความเร็วของกรอบอ้างอิงเวลา อันนี้เข้าใจง่ายมากถึงจะชื่อว่าพิเศษแต่คนชอบคิดว่ามันยากแต่ง่ายกว่าอันล่าง ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (General Theory of Relativity) << อันนี้ยากมากไอน์สไตน์ต่อยอดมาจากอันแรกเพื่อที่แกจะได้ครอบคุมแรงโน้มถ่วงด้วยบอกว่าแรงโน้มถ่วงเป็นผลจากการที่มวลก่อให้เกิดการโค้งงอของ space time อันนี้พื้นฐานเข้าใจง่ายแต่ถ้าเมื่อไหร่แตกสมาการออกมาแล้วลึกลงไปยากเป็นบ้าเลยพวก หลุมดำ หลุมขาว ท้องฟ้าเหตุการณ์มันเกินจินตนาการของมนุษย์ไปเยอะเลย (ปล.ไอน์สไตน์ไม่ได้เป็นคนค้นพบหลุมดำแกทิ้งสมาการไว้แล้วก็ตุยไปคนรุ่นหลังเอาสมาการแกมาต่อยอดแล้วไปเจอว่าถ้า space กับ มวล มันบิดได้แสดงว่าถ้ามันมีมวลมหาศาลมากๆจน space บิดเบี้ยวได้ทำให้เกิดหลุมดำเราก็พิสูจน์ไปแล้วว่าหลุมดำมีจริง)
10 Comments
Area area ที่ 51 ได้ยินว่าเก็บความลับข้างในไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรทำฉันคิดไปต่างๆนาๆ
ถ้าดาวเราเป็นดาวแรกๆที่มีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้น เป็นไปได้ไหมว่าเราเองนี่ล่ะที่จะวิวัฒนาการไปเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาที่สุดในจักรวาล
ถ้าท้ายที่สุด มนุษย์ไม่ทำลายตัวเองจนสูญสิ้นอารยธรรมซะก่อน ก็อยากจะคิดแบบนี้แฮะ มันช่วยตอบคำถามได้เลยว่าเอเลี่ยนมีจริงไหม? คำตอบคือตอนนี้ยังไม่มี เพราะเราเกิดก่อน และกำลังจะเป็นเอเลี่ยนในสายตาดาวดวงอื่น
พอพูดเรื่องนี้แล้วอยากให้ลองชวนพี่เอก(curiosity channel)มาพูดเลยครับ แกทำคลิปแนวนี้เยอะมาก เรื่องตรงกับที่พวกพี่คุยกันเยอะมาก แต่แกไม่ได้คิดเอาเองนะ แกมีที่มามีเหตุผลมีงานวิจัยมาอ้างอิง เพราะแกทำคลิปแนวนี้บ่อย(แล้วคลิปคุณภาพมากๆ) ถ้าพวกพี่ชวนแกมาพูดได้จะว้าวมากเลย แล้วจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้
ชื่อทฤษฎีคือ สัมพัทธภาพ ไม่ใช่ สัมพันธภาพ << ไม่เกี่ยวกับไอน์สไตน์และอวกาศ
สัมพัทธภาพของไอน์สไตน์มี2แบบคือ
ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ (Special Theory of Relativity) << ไอน์สไตน์คิดอันนี้ได้ก่อน เกี่ยวกับพวก time dilation เวลาหดตัวตามความเร็วของกรอบอ้างอิงเวลา อันนี้เข้าใจง่ายมากถึงจะชื่อว่าพิเศษแต่คนชอบคิดว่ามันยากแต่ง่ายกว่าอันล่าง
ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (General Theory of Relativity) << อันนี้ยากมากไอน์สไตน์ต่อยอดมาจากอันแรกเพื่อที่แกจะได้ครอบคุมแรงโน้มถ่วงด้วยบอกว่าแรงโน้มถ่วงเป็นผลจากการที่มวลก่อให้เกิดการโค้งงอของ space time อันนี้พื้นฐานเข้าใจง่ายแต่ถ้าเมื่อไหร่แตกสมาการออกมาแล้วลึกลงไปยากเป็นบ้าเลยพวก หลุมดำ หลุมขาว ท้องฟ้าเหตุการณ์มันเกินจินตนาการของมนุษย์ไปเยอะเลย (ปล.ไอน์สไตน์ไม่ได้เป็นคนค้นพบหลุมดำแกทิ้งสมาการไว้แล้วก็ตุยไปคนรุ่นหลังเอาสมาการแกมาต่อยอดแล้วไปเจอว่าถ้า space กับ มวล มันบิดได้แสดงว่าถ้ามันมีมวลมหาศาลมากๆจน space บิดเบี้ยวได้ทำให้เกิดหลุมดำเราก็พิสูจน์ไปแล้วว่าหลุมดำมีจริง)
56:31 ตำนาน BigShowMeat
"ดวงดาวมีจุดกำเนิดเหมือนกัน แต่ก็มีจุดจบจากพลังการเผาไหม้ของตัวเอง "
"ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าผู้มีปัญญา คือผู้ที่โง่เขลาที่สุด"
"ปลาที่อยู่ในทะเล ย่อมไม่รู้จักโลกบนผืนดิน แต่ถ้าพวกมันมีซึ่งปัญญา สิ่งนั้นก็จะนำพาพวกมันไปสู่การล่มสลาย"
"การที่มนุษย์คิดจะข้ามขีดจำกัดความเร็วแสงนั้น ก็เป็นอะไรที่น่าขันยิ่งกว่าปลาที่คิดจะมาใช้ชีวิตบนผืนโลกซะอีก"
"คำพูดเหล่านี้ เป็นคำจารึก เป็นคำเตือนสุดท้ายต่อเหล่าผู้คิดท้าทายพระเจ้า"
(มนุษย์ก็คือปลา มนุษย์สามารถอยู่บนโลกได้เพราะมีอ๊อกซิเจนในการหายใจและอาหาร ถ้ามนุษย์ไปอยู่ในอวกาศก็จะตายเพราะไม่มีอากาศหายใจก็เหมือนกับปลาที่จะพยายามใช้ชีวิตบนพื้นดิน)
ชอบการที่พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องอวกาศมาก เนื่องจากแต่ก่อนเรียกได้ว่าเป็นพวกเบียวอวกาศได้เลย เพราะกลัวว่าวันนึงโลกจะแตกเลยชอบดูอะไรพวกนี้5555
อันนี้ผมเคยอ่านเจอ ทฤษฎีนึ่งที่ว่าทำไมเรายังไม่เจอสิ่งมีชีวิตต่างดาวสักที อันนี้เป็นอันที่ผมคืดว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุดจากทุกอันที่เคยอ่านมา
ทฤษฎีนั้นบอกไว้ประมาณว่า สิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาเทียบเท่ามนุษย์ "ส่วนใหญ่" อาจมีอยู่และสูญพันธุ์ไปแล้ว ไม่สามารถวิวัฒนาการตัวเองได้ทันก่อนเกินหายนะล้างเผ่าพันธุ์
เพราะหากเทียบกับ โลกมีอายุ 4500 ล้านปี มนุษย์แบบสมบูรณ์มีมาแค่ 50kปี เทียบได้ประมาณ 0.0001% ของเวลาที่เรามีอยู่บนโลก มันคือแค่เศษเสี้ยวอันน้อยนิดของช่วงเวลาที่เราดำรงอยู่
ช่วงเวลาอื่นๆ บนดาวอื่นๆ หรือกาแลคซี่อื่นๆ ก็อาจมีเผ่าพันธ์แบบมนุษย์ที่ดำรงอยู่ได้แค่เศษเสี้ยวของเวลาเหมือนกัน มันเลยเป็นสาเหตุที่เราไม่เจอกันสักที
ผมจำรายละเอียดไม่ค่อยได้ เคยอ่านหลายปีแล้ว ผมว่าอีกไม่กี่ ร้อยปี – พันปี มนุษย์อาจไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้วก็ได้ และในช่วงเวลาเดียวกัน ก็มีมนุษย์ต่างดาวที่เงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วตั้งคำถาม
ถ้าพูดถึง Dimension และทฤษฏีอวกาศพิศวง แปลกๆ จนบางเรื่องเราจินตนาการไม่ออกเลย 3 Body Problem สามารถช่วยให้เห็นภาพได้ ( แต่ตอนนี้ก็มีแค่แบบเล่มนิยาย Sci – Fi ที่เล่นประเด็นพวกนี้ในเล่มท้ายๆแล้ว แต่ . . . นิยายอะเนอะ ถ้าใน Youtube ก็มีคนเล่าให้ฟังอยู่พร้อมภาพประกอบที่ช่วยจินตนาการให้เห็นภาพบ้าง แต่ใน Ver. Netfilx ยังไปไม่ถึงไหนเลย ) ถ้าใครชอบความลี้ลับจักรวาล เรื่องนี้ตอบโจทย์เลย กับอีกช่องที่ช่วยให้เห็นภาพเรื่องหลุมดำ และ Multiverse ก็คลิป " Animation vs. Physics " ถ้าเอาคำอธิบายด้วยอีกก็ " Animation vs Physics เล่าให้ฟัง ทีละเฟรม | MLHF "
พวกเรื่องมิติอะไรเนี่ย เหนือจินตนาการผมไปไกลละ แล้วมาเป็น 10 มิติอะไรเนี่ย เหนือเกิ้นนน แต่อย่ามาบอกว่าต้องตั้งสมาธิ หรือจิตขั้นสูงตามหลักศาสนา พระพุทธเจ้าทำได้ตั้งนานแล้ว รู้มาตั้งนานแล้วอะไรพวกนี้นะ เห็นตามคลิปพวกทฤษฎีในยูทูบเนี่ย ปัญญาอ่อนจัดๆ