เขียนโดย : คะเมะดะ จุนอิชิโร
แปล : ทินภาส พาหะนิชย์
สนพ. : WELEARN

มีทั้หมด 4 บทแต่เนื้อหาแบ่งเป็นหลักๆ 2 เรื่อง
ก็คือพระเอกของเรื่อง “การใช้กระเป๋าตังค์ยังไงให้รวย”
เสริมด้วย “แนวคิดเกี่ยวกับเรื่องเงิน” ที่จะช่วยปรับทัศนะคติและมุมมองที่มีต่อเงิน

บอกไว้ก่อนเลยว่า ไม่เกี่ยวกับมูเตลูใดๆ และหลักการที่อยู่ในหนังสืออาจจะทำตามไม่ได้เป๊ะๆหมดทุกข้อ
จากปัจจัยด้านวัฒนธรรมและความพร้อมของแต่ละคน
แต่เชือว่าถ้าได้ลองมาปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเอง ก็น่าจะสามารถเพิ่มจำนวนเงินในกระเป๋าคุณได้ไม่มากก็น้อยแหละ

เริ่มด้วยคำถามที่ว่า ….. ทำไมต้องเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ ?
ตอบ : ผู้เขียนเป็นผู้สอบบัญชีภาษีให้กับธุรกิจต่างๆ ได้ทำงานกับนักธุรกิจมากมาย
ได้สังเกตว่า….นักธุรกิจที่มีสถานะทางการเงินไปในทางที่ดี มีจุดร่วมอยู่อย่างนึงที่เหมือนกันก็คือ เค้าใช้กระเป๋าสตางค์เหมือนกัน !!

และที่เจ๋งกว่าก็คือ รสนิยมของกระเป๋าสตางค์นักธุรกิจใช้ สามารถบ่งบอกถึงรูปแบบการดำเนินชีวิตและท่าทีของผู้ใช้ที่มีต่อเงินด้วย

จุดร่วมที่ 1 : คนรวยใช้กระเป๋าสตางค์แบบยาว เพราะ เราไม่ควรพับเงินเพราะเงินจะไม่สวย เพราะอะไรเงินต้องสวยในเมื่อเงินก็มีค่าอยู่ที่ตัวของมันแล้ว
ก็เพราะว่า เราใส่ใจเงิน เรารักเงินที่สวยงาม เราเห็นคุณค่าของเงินมากกว่าคุณค่าที่ตัวเงินมี
ผู้เขียนยกตัวอย่างได้น่ารักมากว่า…. เงินเปรียบเสมือนแขก Super VIP เราต้องต้อนรับเค้าอย่างดี ถ้าเค้าประทับใจเค้าก็จะกลับมาเที่ยวอีก แถมยังบอกต่อ
แนะนำเพื่อมาเยือนเราอีกด้วย !!!
จุดรว่มที่ 2 : คนรวยใช้กระเป๋าสตางค์สวย เพราะ จะช่วยปรับอารมณ์ของผู้ใช้เงินให้เหมาะสมกับกระเป๋าสตางค์โดยธรรมชาติ
จุดร่วมที่ 3 : คนรวยใช้กระเป่าสตางค์แพง เพราะ ผู้เขียนตั้งกฏ (เอง) ขึ้นมาว่า… รายได้ของเค้าต้องเท่ากับราคากระเป๋าสตางค์ 200 เท่า นั่นหมายความว่า
เราซื้อกระเป๋าสตางค์ที่มูลค่ามากกว่าเงินในกระเป๋า และใช่…..ต้องมโนและจินตนาการถึงรายได้ที่เราพึงปรารถนา เหมือนเราต้อง Think Big ไปก่อน
จุดร่วมที่ 4 : คนรวยไม่ปล่อยให้กระเป๋าสตางค์อ้วน อันนี้สอดคล้องกับเรื่องความสวยงามและทำให้เงินมีพื้นที่ที่น่าอยู่สะอาดตา และเสริมด้วยว่า
คนที่กระเป๋าสตางค์อ้วน ส่วนใหญ่เป็นคนไม่มีเงินทั้งนั้น (อันนี้แรงม๊ากกกก)
เพราะ 4.1 : บัตรสะสม / สิทธิแลกซื้อ คือรอยรั่วของเงิน เพราะ เราจะหน้ามืดซื้อของที่ไม่จำเป็นเนื่องจากเวลาอันจำกัดของสิทธิพิเศษ
4.2 : เราจะซื้อเพราะถูก มากกว่าซื้อเพราะอยาก และมากกว่าซื้อเพราะจำเป็นไปโดยปริยาย
จุดร่วมที่ 5 : คนรวยมองว่าอยู่กับเงินก็เหมือนอยู่กับคน เงินก็มีชีวิตและกำลังมองว่าตัวเองได้รับการปฏิบัติเช่นไร

กฏ 8 ข้อว่าด้วย “วิธีใช้กระเป๋าสตางค์ของคนหาเงินเก่ง” คัดเฉพาะที่เราสามารถทำได้
1.ใส่เงินสดก้อนนึงในกระเป๋าสตางค์ใหม่ที่ซื้อมาประมาณ 3 วัน อันนี้แล้วแต่ผู้ใช้สะดวก จะ10,000 5,000 500 แล้วแต่
ผู้เขียนบอกว่า เพื่อกระเป๋าจะได้จดจำเงินจำนวนนั้นและให้กระเป๋าคุ้นเคยกับเงิน เฉกเช่นตอนเราซื้อรองเท้าใหม่ช่วงแรก
อาจจะยังไม่คุ้นเท้า ใส่ไปเรื่อยเราจะโอเคกับมันมากขึ้น หรือบ้านใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้าไปอยู่
กว่าจะจำได้ว่าสวิสไฟหน้าบ้านอยู่ตรงไหนหรือวางอะไรไว้ที่ไหน ก็ต้องอยู่ก่อนระยะนึง ประมาณนี้
และพูดกับกระเป๋าในใจด้วยว่า “จำความหนา กลิ่น และสัมผัสของเงิน …. บาท ไว้ให้ดีนะ”
2.หันหน้าแบงค์ไปทางเดียวกัน เป็นเรื่องของความสะอาด น่าอยู่น่ามอง และทำให้เราใสใจเงินในกระเป๋ามากขึ้นด้วย
3.เรียงลำดับให้แบงค์มูลค่าน้อยไปมาก เช่น แบงค์ 20 , 50 , 100 , 500 , 1,000
อันนี้คิดว่าหลายคนอาจจะทำกันอยู่แล้ว ก็เพื่อเราจะให้ทับหน้าได้ออกรบก่อนและคุ้มกันบอสใหญ่ที่จะออกรบเฉพาะศึกใหญ่เท่านั้น แต่อย่าหลงหยิบใช้ผิดตำแหน่งล่ะ
4.แยกเหรียญใส่กระเป๋าอีกใบ สัมพันธ์ทั้งกับความสะอาด ความอ้วน และความน่าอยู่ของกระเป๋า
ซึ่งแขก Super VIP (แบงค์)กับแขก VIP (เหรียญ) ควรได้รับการต้อนรับที่ต่างกัน
5.เลือกหยอดกระปุกเฉพาะบางเหรียญ คือในหนังสือผู้เขียนจะเลือกหยอดแค่เหรียญ 500 เยน ทำให้เค้ามีเงินเก็บที่เอาไว้จ่ายสรุ่ยสร่าย
ได้โดยไม่รู้สึกผิด อันนี้เราก็มาปรับดูว่าเราสะดวกหยอดเหรียญ 1 บาท / 2 บาท / 5 บาท / 10 บาท ได้ในแต่ละวัน
6.ชำระเงินด้วยแบงค์ใหม่ เหล่าคนรวยบอกผู้เขียนว่า “คิดว่าผู้รับคงจะดีใจที่ได้แบงค์ใหม่มากกว่าน่ะซิ” ถึงจะเป็นการคิด
ไปเองจากผู้จ่ายเงิน แต่เป็นเราเราก็แบงค์ใหม่มากกว่านะ สื่อให้เห็นว่าคนรวยมักใส่ใจผู้อื่น
7.ยื่นเงินให้คนอื่นอย่างสุภาพ เป็นการแสดงความเคารพต่อเงินและผู้รับ ไม่ทำให้รู้สึกว่า “เอาไปซะ”
ผู้เขียนจินตนาการว่า เงินจับตาดูเราอยู่และเงินคงอยากกลับไปหาคนที่ใช้อย่างสุภาพมากกว่าหยาบคาย
8.พูดกับเงินว่า “ไปดีนะ” และ “กลับมาแล้วหรอ” ผู้เขียนบอกว่าอันนี้จริงจังที่สุด เพราะเมื่อเวลาที่เราใช้จ่าย
ฟุ่มเฟือยเราจะพูดว่า “ไปดีนะ” ไม่ค่อยสะดวกใจ
ถ้าเราพูดบ่อยๆจนเป็นนิสัย เราจะใช้เงินอย่างมีสติขึ้น

เสริมๆ
1.ก่อนจ่ายคิดดีๆว่าเพื่อ “การบริโภค” “การลงทุน” “การผลาญ”
2.ห้ามกฏเงินที่ร้านสะดวกซื้อ เพราะเงินจะรั่วง่ายมาก
3.กำหนดวันกดเงินแค่เดือนละ 2 ครั้งเป็นตัวเลขกลมๆ อาจจะวันเงินออกและกลางเดือน เพื่อกันการใช้เงินตามอารมณ์
และเพื่อฝึกการบริหารเงินให้ใช้ให้พอเท่าที่มีในกระเป๋า ถ้าวันกดรอบ2เงินเดิมยังไม่หมด ก็ถือเป็นโบนัสไป
4.คิดเสมอว่า “อีก 10 ปีข้างหน้าอยากเป็นแบบไหน” เป็นการวางตัวทำตัวให้คู่ควรกับสิ่งที่อยากได้
และ Dream จะค่อยๆ Comes True โดยไม่รู้ตัว

• Facebook
• X
• Line