ทนายตั้ม ลั่นไม่ใช่ทนายสายโจร ทนายสีเทา เปิดเส้นทางการเงินครั้งแรก ยืนยันรวยมาจากลูกความให้เงิน 71 ล้านบาท สนธิฝากถึงทนายตั้ม “ผมเกี่ยวอะไรด้วย” ย้ำข่าวเปิดโปงคดีฉ้อโกง 71 ล้าน เป็นการทำหน้าที่สื่อมวลชน ด้านเพจดังจี้ ‘เศรษฐีนี’ แจงปมให้เงิน 71 ล้าน
เมื่อวานนี้รายการโหนกระแส ได้เชิญ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขามูลนิธิทีมงานทนายประชาชนมาร่วมรายการ
โดยในช่วงหนึ่งของรายการ พี่หนุ่มได้ถาม ทนายตั้ม ษิทรา ว่าการเป็นทนายก็อาจจะได้เงินไม่ได้มากอะไรจะมีเงินขนาดบินเฟิร์สคลาสจนทำให้ถูกเรียกว่าเป็นทนายสายโจรทนายสีเทาใส่แบรนด์เนมอวดชีวิตร่ำรวยเป็นอย่างนั้นหรือไม่
ทนายตั้ม กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ที่ว่าตนเองเป็นทนายสีเทา ที่ผ่านมาตอนทำออฟฟิศ ษิทรา ลอว์เฟิร์ม รายได้ผม 1 ปี ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งผมก็แจงภาษีครบหมด ส่วนที่เห็นผมไปต่างประเทศบ่อยผมไปกับลูกความซึ่งลูกความเป็นมหาเศรษฐีอยู่ต่างประเทศเป็นคนไทยอยู่ต่างประเทศมีเงินเยอะมาก แต่ไม่ขอลงรายละเอียดเงินที่จ่ายให้ตนเป็นเงินเล็กๆน้อยๆสำหรับเขา
ช่วงปีที่ผ่านมาเขาให้ผมดูแลธุรกิจของเขาในประเทศไทยทุกอย่าง และดูแลสิ่งที่มีปัญหาในต่างประเทศด้วย และให้เงินเดือนผม 3 แสนบาท ต่อมาเราเริ่มสนิทกัน เขาให้ทุน โดยให้เงินผมมาก้อนหนึ่ง เคยให้มา 2 ล้านยูโร หรือประมาณ 70 ล้านบาทซึ่งเป็นเรื่องปกติของเขา เพราะเขารวยมาก
เขาเคยให้เงินล่าม 1 ปี 1 ล้านยูโร ทำบุญทีเป็น 10 ล้าน เขาก็โอนเงินมาให้ผมโดยตรง ซึ่งปกติโอนเงินจากต่างประเทศ จะต้องหักไป 40% แต่เขาทำโปรเจคขึ้นมา เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียภาษี 40% โดยเงินก้อนนี้เป็นเงินที่เขามีโชคได้มา
โดยเส้นทางการเงินสามารถตรวจสอบได้ เป็นการให้โดยเสน่หา ตอนที่ถ่ายรูปลูกจะไปเรียนต่างประเทศ เพราะเขาซับพอร์ตให้ เวลาไปหาเขาก็ไปทั้งครอบครัว เขาเอ็นดูลูกผม
จากกรณีดังกล่าว นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ‘คุยทุกเรื่องกับสนธิ’ ถึงประเด็นทนายตั้ม อมเงิน 71 ล้าน หลอกลูกความให้ลงทุนแพลตฟอร์มหวยออนไลน์ เจ้าตัวอ้างให้โดยเสน่หา ระบุข้อความ
ผู้เสียหายหลังจากได้ปรึกษาครอบครัวเห็นว่าโครงการดังกล่าวน่าจะเป็นไปได้ ขณะเดียวกันก็ตรงกับความตั้งใจของผู้เสียหายที่จะลงทุนอะไรสักอย่างไว้เอาไว้ให้บุตรชายจึงตอบตกลงจะทำหวยออนไลน์และให้ทนายตั้มไปติดต่อว่าจ้างโปรแกรมเมอร์และให้ทำรายละเอียดเป็นลายลักษณ์อักษรมาซึ่งทนายตั้มตอบตกลง
หลังจากที่จ่ายเงินค่าจ้างเขียนโปรแกรมไปแล้วผู้เสียหายก็ได้ติดตามความคืบหน้าการซื้อระบบโปรแกรมสลากออนไลน์จากทนายตั้มเรื่อยมา แต่ได้รับคำตอบว่ายังทำไม่แล้วเสร็จ จึงเป็นสาเหตุประการหนึ่งที่ทำให้ในเวลาต่อมาผู้เสียหายได้ยกเลิกสัญญาจ้างบริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม เป็นที่ปรึกษา โดยมีหนังสือบอกเลิกสัญญาจ้างที่ปรึกษา ลงวันที่ 25 มกราคม 2567
จนกระทั่งวันที่ 1 กันยายน 2567 ซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนดการส่งมอบงานตามสัญญา ฝ่ายผู้เสียหายยังไม่ได้รับการตอบรับหรือรับมอบระบบโปรแกรมตามสัญญา ดังนั้นในวันที่ 8 กันยายน 2567 ผู้เสียหายจึงมอบอำนาจให้ทนายติดตามทวงเงินจำนวน 71 ล้านบาทคืนจากทนายตั้ม
ทนายตั้มได้รับหนังสือดังกล่าวแต่เมื่อถึงกำหนดเวลาให้คืนเงินตามหนังสือทวงหนี้ทนายตั้มก็ไม่ได้คืนเงินให้กับผู้เสียหายและไม่ได้ติดต่อกลับมา จึงมอบอำนาจให้ทนายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ต้องหาอย่างถึงที่สุด
ขณะเดียวกัน เจ้าของผู้พัฒนาระบบหวยออนไลน์ที่มีชื่อเรียกว่า “นาคี” ซึ่งเป็นลูกความว่าจ้างบริษัทษิทราฯ เป็นที่ปรึกษากฎหมาย และ เป็นคู่สัญญากับผู้เสียหายหรือนักธุรกิจสาว ให้การเป็นพยานยืนยันว่า บริษัทตนเองพัฒนาโปรแกรม “นาคี” เพื่อเสนอขายระบบให้ลูกค้าและบุคคลทั่วไป โดยตั้งราคาขายไว้ที่ 20 ล้านบาท ซึ่งราคานี้รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เครื่องสแกนล็อตเตอรี่เข้าระบบตู้เซฟที่เก็บลอตเตอรี่รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ เมื่อซื้อไปแล้วสามารถใช้งานได้ทันที
จากนั้น ทนายตั้ม ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุ “พี่สนธิลงข่าวว่าผมฉ้อโกงเงิน 71 ล้าน พนันกันไหมใครหน้าแหก ดื่มเยี่ยว 71 แก้ว”
สนธิฝากถึงทนายตั้ม “ผมเกี่ยวอะไรด้วย” ย้ำข่าวเปิดโปงคดีฉ้อโกง 71 ล.ทำหน้าที่สื่อมวลชน
“สนธิ” ถาม “ทนายตั้ม” ผมเกี่ยวอะไร กรณีสื่อเครือผู้จัดการนำเสนอข่าวนักธุรกิจสาวแจ้งความฉ้อโกง 71 ล้าน ยันไม่ได้เป็นคู่กรณีทั้งสิ้น เผยเคยบอกลูกน้องไปแล้ว ให้รอคดีมาถึงส่วนกลางก่อนค่อยลง
กระทั่งวันจันทร์โทร.มาพยายามขอเข้าพบ ก่อนไปออกโหนกระแสแล้วอาละวาด ย้ำทำหน้าที่สื่อเจ้าเดียวที่กล้าพูด ปรับคิวรายการใหม่จัดข้อมูลชุดใหญ่ศุกร์นี้ (25 ต.ค.)
ส่วนคดีความที่มีการฟ้องร้องกับทนายตั้มทางเพจออยศรีฯยืนยัน ว่าไม่มีการถอนแจ้งความและจะไม่มีการกลับไปคืนดีกับทนายตั้ม เหมือนคุณอัจฉริยะ แน่นอน
นอกจากนี้ตนและทนายความเตรียมที่จะดำเนินคดีกับโบว์ศรีที่ไปนั่งแถลงข่าวร่วมกับทนายตั้มเมื่อวานนี้ด้วยเนื่องจากมีการพูดพาดพิงทำให้ตนและเพจได้รับความเสียหาย
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/middaynews/421941
——————-
เที่ยงวันทันเหตุการณ์ วันที่ 24 ตุลาคม 2567
ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ 11.20 – 12.35 น.
#เที่ยงวันทันเหตุการณ์ (MiddayNews)
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/middaynews
facebook : https://www.facebook.com/3PlusNews
Twitter : https://twitter.com/3PlusNews
YouTube : https://www.youtube.com/c/3PlusNews
TikTok : https://www.tiktok.com/@3plusnews
20 Comments
ไม่รอด
ไม่รอด
แต่จริงค่ะ เกี่ยวกับการโอนเงินจากต่างประเทศ เข้าเมืองไทย จะเสียภาษีจากต้นทางค่ะ จะหักภาษีจากต้นทางเลยค่ะ เพราะอยู่ต่างประเทศ เวลาเราจะโอนเงินเข้าเมืองไทย เราจะโดนหักภาษีจากที่นี่
คือจริง โอนเงินจากต่างประเทศ โอนจากยุโรปไปเมืองไทย เราต้องจ่ายภาษีจากที่ต้นทางเลยเพราะเราต้องจ่ายภาษี เพราะกฏหมายเขาเข้มงวด จะไม่มีทางเลยที่โอนจากต่างประเทศจะไม่เสียภาษี มันเป็นไปไม่ได้เลย
ใช่ค่ะ ที่ฟังดูทนายตั้มพูดจริง เพราะเราโอนตังเข้าเมืองไทยเยอะๆๆๆๆ เราต้องมีโปรเจ็คมีธุรกิจ เพราะเป็นเงินขาวเงินสุจริต ถ้าเรามีธุรกิจที่ไทย เราจะโอนได้ค่ะ
โดนจับไปเลยหัวหมอดีนัก
ทนายสายเทาพวกนี้จะหาช่องทางหากินจากเอฟซีที่รวยๆเชื่อคนง่ายหรือไม่😊
ไม่ใช่ให้โดยเสน่หา เอาของเค้าโดยเสน่หาต่างหาก
มันมีด้วยหรอว่ะให้ฟรี 70-100ล้านบาทแบบฟรีๆ ไอ้ตั้มมันหลงตัวเองป่าวว่ะ😮 ขนาด แม่ พี่ชายบ้านยังจนๆอยุ่เลย แม่ยังนอนเตียงๆเก่าๆอยุ่เลย รวยแบบไหนไม่ ชื้อให้แม่ว่ะแต่กับเอามาให้ ไอ้ตั้ม !!!!!! งงงงงง😊
คุณหนุ่มเชื่อทนายตั้มรึเปล่าหละเรื่องนี้น่าสงสัยนะ
สนธิมางานทำแล้วหลังที่ตกงานมานาน ก้อยังดีกว่าป่วนคนลงถนน
แดกเงินเขาแล้วพูดเอาดีไส่ตัวเอง มคงจบแล้วคนไม่ดีแล้วพูดเอาดีไส่ตัวเองไปออกรายการคุณนุม จบทุกราย แต่ดีไปออกก้อได้ดี
โอนเงินกลับไทยไม่ได้เสียภาษีเยอะขนาดนั้น ทนายอย่าหัวหมอตอแหล
เวรกรรมทำไมมาเร็วอะไรปานนี้😂😂
หาแดกกับชาวบ้านไม่ต่างอะไรกับดิไอค่อนนี่แหละมนุษย์ไม่เว้นแม้กระทั่งพวกห่มเหลือง
สะใจ แรงท้าชน สนธิ vs ตั้ม
ทำไม่ไม่ให้ พี่น้องตัวเองดีกว่า ไปหลงให้คนเนรคุณ ไม่รู้จักคุณคน ให้พวกสัตว์นรกแทน
งานเข้าเลย…
คดีนี้เขาเรียกคดีเนรคุณครับ
จัดให้ทีทนายสีเทา