ทำไมหนังสือไทย ไม่ไประดับโลก? ตลอดหลายปีที่ผ่านมาแทบไม่มีหนังสือไทยถูกแปลไปเป็นภาษาอังกฤษเลย มันเป็นแบบนั้นได้ยังไง …เดี๋ยวพูดให้ฟัง
Pūd x blozxom
http://blozxom.com/
Special Thanks: ซอย soi
http://s-o-i.io/
Facebook:
https://www.facebook.com/pudproduction
47 Comments
ก็หนังสือ ไทย มัน สกดจิต ให้รัก เจ้า 5555 เเหม่สูงส่งจริงๆ
เอางี้ดีกว่า คนไทยอ่านหนังสือปีละกี่เล่ม
เราสงสัยเหมือนกันนะ ในฐานะที่ชอบอ่านนิยายวายแปลจากจีนมากๆว่านิยายวายไทยเนี่นมันไม่มีหรอที่แปลไปเป็นอีกภาษา
เนื้อหาดี แต่ไม่ชอบวิธีการพูดและน้ำเสียง
อันนี้เราไม่รู้ว่าเกี่ยวมั้ยแต่ไทยไม่สนับสนุนการ์ตูนของไทยที่ไม่ได้วัฒนธรรมไทยจ๋าขนาดนั้น(ก่อนหน้านี้ก็มีดราม่ามากมายเกี่ยวกับอนิเมะไทยเรื่อง ปิ่นโต) ที่ออกมาก็มีแต่เรื่องที่อิงกับภูตผีปีศาจไทย โครงการในหลวง หรืออะไรพวกนี้ที่ได้รับการสนับสนุนแต่กลับกันกลับขาดทุนพอตัว แล้วนักวาดไทยนักเขียนไทยรุ่นใหม่ก็ออกไปทำงานให้กับต่างประเทศหมด เพราะต่างประเทศสนับสนุนสิ่งพวกนี้
ก็คือสังคมไทยไม่ได้สนับสนุนและผลักดันการแปลภาษาครับ ยิ่งระดับชนชั้นกลางยิ่งเป็นไปได้ยาก
ค่านิยมสังคมไทยชอบคิดว่าเป็นนักเขียนไส้แห้ง อาชีพไม่มั่นคง ไม่ได้การสนับสนุนที่มากพอ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับทุกอาชีพเลย ขนาดเด็กวิทย์กับเด็กศิลป์ยังเทียบกันเลย ทั้งๆที่มันเทียบกันไม่ได้เลย มันเก่งคนละด้าน ทุกคนต่างกัน มีความคิดความอ่านไม่เหมือนกัน
เอาง่ายๆคืองานวรรณกรรมไทยเข้าถึงยาก อย่าว่าแต่ตีพิมพ์สู่ภายนอกเลย คนในประเทศยังเข้าถึงยากจะสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆแต่ละทีต้องคอยระวังกับนู้นนี้นั้น พอขัดต่ออะไรเดิมๆก็โดนด่า
มันไม่มีคนผลักดันด้วย เอางี้ใครจะสนใจประเทศด้อยพัฒนา ขนาดตัวประเทศเองยังไม่อยากพัฒนาเพราะกลัวสูญเสียการปกครอง อีกอย่างหนังสือส่วนมากจะสอนให้รักเจ้า ต่างชาติเค้ารู้หมดแล้วว่าชาตินี้มันเป็นยังไง แถมผลงานเนื้อเรื่องก็เดิมๆ ไม่มีความทันสมัยเพราะคนรุ่นใหม่มักจะโดนคนรุ่นเก่าเบียดที่ยืนทำอะไรต่างแตกไม่ได้ พวกหัวโบราณ ประเทศอื่นเค้าไปไกลละไทยแมร่งย้อนยุค โครตเสียใจเลยที่เกิดมาเป็นคนไทยพอรู้ความจริงทุกอย่าง
King never smile ไงระดับโลก🤣
The king never smile
มันเกิดจากการปลูกฝังและให้ความสำคัญล้วนๆ เรื่องของความเชื่อและค่านิยม
ไทยเราต้องเปิดโอกาสโครงสร้างพื้นฐานมากกว่านี้ซึ่งคือการศึกษา
ไม่ควรมีกรอบมากั้นจินตนาการด้วยค่านิยม
ไม่ควรมีกรอบมากั้นการถ่ายทอดความคิดอย่างอิสระด้วยความเชื่อ
วรรณกรรมเราน้อยมากที่จะเปิดโลก บวกกับภาษาที่แข็งแรง แล้วรัฐไม่ให้การสนับสนุนเลย จริงๆ
เพราะเป็นหนังสือไทยไงครับ
ผมว่าหลักๆก็คือ ขาดการสนับสนุนจากรัฐบาล แต่สุดท้ายแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับตัววรรณกรรมเองด้วย สำหรับผมวรรณกรรมไทยเป็นอะไรที่อ่านยากเข้าใจยากมากกว่า แต่ก็ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นกันไหม ผมเลยไปอ่านงานของฝั่งญี่ปุ่นมากกว่า(มุราคามิ,ดะไซ โอซามุ ) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมก็พึ่งเข้าวงการ อาจจะยังหางานไทยที่ชอบไม่เจอ🙂
ส่วนตัวนะคะ เราว่าแนววรรณกรรมหรือนิยายไทยส่วนมากจะเป็นนิยายรักซะส่วนใหญ่ด้วย ด้วยความที่แนวนี้คนอ่านเข้าถึงง่าย ถ้าได้นักเขียนสำนวนดีๆ คือติดลมบนไปเลย เผลอๆ ก็ได้ทำเป็นหนัง/ละคร (ซึ่งส่วนมากพอไปปรับบทคือค่อนข้างแย่ แค่แคสนักแสดงก็สอบตกกันแล้ว มีไม่กี่เรื่องที่ทำแล้วจะดีจนถึงดีมากๆ เช่น บุพเพสันนิวาส , กลิ่นกาสะลอง ฯลฯ)
ในขณะที่นิยายและวรรณกรรมอื่นๆ ก็มีผู้อ่านจำนวนมาก เช่น สืบสวน , แฟนตาซี กลับแทบไม่เคยได้รับการรีเมคเป็นแอนิเมชันหรือภาพยนตร์ใดๆ
ปัจจัยสำคัญเลย เราว่าคนไทยให้ค่างานศิลป์ "ต่ำมาก" ค่ะ นักวาด นักเขียน ถ้าไม่ดังระดับหนึ่ง ในไทยคือกดราคากันหนักหน่วงมาก แถมหนังสือถ้าหากจะซื้อราคาเมื่อเทียบกับค่าครองชีพคือแทบจะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเลย หรือแม้กระทั่งดูการ์ตูนคนโลกแคบก็จะบอกว่าดูทำไมไร้สาระ คนไม่สนใจ
จริงๆ เราอยากให้รัฐบาลเริ่มสนับสนุน e-sports , animation, series/movies , writer, music และอื่นๆ ให้เต็มที่สักที ยิ่งอีสปอร์ตคือประชาชนสนับสนุนผลักดันกันมาเอง หนังละคร อันนี้แย่อย่างเดียวคือบท บทละครไทยไม่ไหวจริงๆ งานภาพหรืออะไรคือทำได้ดีนะแต่บทคือไปพักเลย เรื่องนักเขียนของไทยมีแค่งานประกาศรางวัลเฉยๆ แต่ไม่มีแอพโปรโมทหนังสือแบบจริงจังหรือรีวิวหนังสือเลย แบบทีแรงค์กิ้งขายดีไปเท่าไหร่ๆ มีรางวัลอื่นๆ บ้างนอกจากศิลปินแห่งชาติ
( เพิ่มเติม ) จริงๆ ไม่ควรมีแต่แอพรีวิวหนังสือแต่ควรมีแอพที่สามารถ รีวิวจัดอันดับและวิจารณ์ต่อหนังสือ, ละคร, ภาพยนตร์, แอนิเมชัน เพื่องานเกิดการแข่งขัน มีคุณภาพและไม่ดูถูกผู้ชม
เพลงไทย เราควรมีการจัดอันดับชาร์ตมากขึ้นนอกจากการโหวตในแอพ T-pop stage เช่น การนับยอดดาวน์โหลด ยอดขายดิจิตัลอัลบั้ม ฯลฯ
มันมีหนังสือของไทยที่ถูกแปลไปเป็นภาษาอังกฤษก็มีนะอย่างหนังสือเรื่อง ' The king never smiles ' มันเป็นหนังสือพระราชประวัติอย่างไม่เป็นทางการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและราชวงศ์จักรีมันถูก เขียนโดย พอล แฮนด์ลีย์ นักเขียนชาวอเมริกัน จัดพิมพ์ครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์แห่งมหาวิทยาลัยเยล และออกจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2549 วิกิพีเดีย แต่ก็ถูกมันไม่ค่อยมีหนังสือภาษาไทยที่ถูกแปลมากนัก 'นี้แค่ยกตัวอย่างหนังสือที่ถูกแปลแล้วเท่านั้นนะคะ'
เรามีอะไรที่เขาไม่มี
เขามีอะไรที่เราไม่มี
ทำไมต้องแปลในสิ่งที่เขาไม่อยากได้
แล้วเราทำอะไร ให้เขาอยากได้
.
"คุณค่า" ไม่ใช่สิ่งที่เราสร้างได้ หากแต่เป็น สิ่งที่เขาสร้างไม่ได้ แต่เขาอยากได้
.
เช่นเดียวกันกับ นักล่าไม่เคยวิ่งล่าหางของตัวเองเพื่อกินเนื้อหางของตัวเอง
ประเทศอื่นเขาเอื้อทุกอาชีพค่ะ เราคิดว่าทุกอาชีพมีบทบาททางสังคมเหมือนกัน แต่คนไทยมักจะมองดูถูกอาชีพ และเลือกปฎิบัติต่อบุคคลโดยมองจากอาชีพหรือรูปลักษณ์ภายนอกบางกลุ่มนะคะไม่ได้แบบเหมารวม
คิดมากกันไปมัน Google ก็จบล่ะ
อยากให้ประเทศไทย ใส่ใจกับภาษาอังกฤษมากกว่านี้ ถ้าได้ใช้ได้พูดทุกวัน อย่างน้อยเด็กไทยที่ไม่ได้เรียนอินเตอร์ หรือโรงเรียนสองภาษายังมีโอกาสจะได้ใช้ภาษาอังกฤษบ้าง
ข้าราชการไทย ยังมองว่า วิชานักเขียน เป็นอาชีพไส้แห้ง ยกเว้น นักเขียนนั้น เป็นพวกสลิ่ม เป็นเครื่องมือรัฐ เช่น โจมตีฝั่งตรงข้าม หรือมีเนื้อหานิยายที่ภาครัฐต้องการ อวยประวัติใคร
หลักการในการนำเสนอ ดีมาก + พร้อมความรู้ & สาระ เน้น ๆ
จากที่ฟังคลิปแล้วตามที่ผมเข้าใจนะ คือหนังสือมันไม่น่าสนใจหรือเปล่า ถ้ามันน่าอ่านแน่นอนคนเขาก็อยากแปลอยู่แล้ว เพราะมันขายได้ เปรียบเทียบเกาหลี รัฐมีทุนสนับสนุนเพราะเขาต้องการขายวัฒนธรรม แน่นอนเกาหลีเขามีเงินต่อให้ขาดทุนก็ไม่น่าจะกระทบเศรษฐกิจบ้านเขา กลับมาบ้านเราจะให้รัฐเข้ามาแทรกแซงทั้งๆที่งานแปลไปแล้วก็ไม่รู้จะทำกำไรได้มั้ย ทำงานทุกอาชีพมันก็มีความเสี่ยงทั้งนั้น ถ้าแบบนั้นไม่ต้องให้รัฐเข้าแทรกแซงทุกกิจการที่มีความเสี่ยงเหรอ อันนี้ตามที่ผมเข้าใจนะ ผิดพลาดขออภัย แลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ครับ
ลองหาว่า มาแชล บารัง พอดีเรามาซื้อบ้านเค้า เค้าป็นคนฝรั่งเศสที่แปลวรรณกรรมไทยไปทั่วโลก
เป็นคอนเท้นต์ที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ
คอนเทนต์คือสุดมาก แต่ผิดที่คนไทยส่วนใหญ่ ไม่ชอบสาระ
ต้องช่วยกันซัฟ ช่องดีๆแบบนี้จะได้ส่งความรู้ถึงประชาชนของเรา
5:55 เห็นด้วยแบบสุดๆเราไม่สามารถบอกได้เลยว่าตลาดต้องการสินค้า(คือหนังสือที่เราอุตส่าห์แปลแทบตาย)แบบไหนยังไม่นับความยากแบบยากสัสๆอ่ะในการแปลคิดง่ายๆนะภาษาไทยมี44พยันชนะแต่อังกฤษมี26พยันชนะมันส่งผลไปถึงรูปประโยคที่คำแต่ล่ะคำใช้ศัพเฉพาะตัวต่างกันมากๆอ่ะไหนจะเนื้อเรื่องที่บางทีเป็นเรื่องที่รู้เฉพาะท้องถิ่นนั้นๆพอมาแปลให้คนอีกท้องถิ่นฟังมันก็เก็ทไงเข้าไม่ถึงสาระสำคัญที่ผู้เขียนเค้าอยากจะสื่ออีก
ผมงงที่เค้าพูดนะ แต่ผมเข้าใจที่เค้าสื่อ..
หนึ่งปีผ่านไปหลังจากคลิปนี้โพสต์
ขอยืนยันว่านักเขียนและหนังสือในไทยที่ประเสริฐมากมีอยู่จริง
ก่อนอื่นเลยสาบผลิตไทยต้องใจดีกันเองก่อน
ไทยเราสะสมระยะเวลาการอ่านไม่เท่าต่างชาติ พวกนั้นอ่านกันมาพันปี บ้านเราเพิ่งอ่านเมื่อเกือบๆ 200 ปีก่อนนี้เอง ต้องสะสมและทำกันต่อไป
ผมว่าที่ญี่ปุ่นมีแปลเยอะเพราะน่าจะเพราะการ์ตูนมังงะหรือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการ์ตูน อันนี้ความคิดผมนะ ถูกผิดยังไงก็กราบขอโทษด้วยครับ
ขอหนึ่งคำ = โจร
ถ้ามันน่าสนใจเขาก็เอาไปแปลเอง
ถ้าไม่มีคือเขาไม่สนใจ
หนังสือไทยอวยเผด็จการ อวยศักดินา ประเทศที่เจริญเป็นอารยะชล เขาไม่ยอมรับความเป็นทาส
ผมมองกลับกัน งานที่กำลังจะแปล ย้อมมีโอกาสขาย โอกาสลองตลาด มากกว่าที่กำลังจะลงมือเขียน/ อย่าเอาคำว่า แปลเสร็จจะขายใคร มาเป็นข้ออ้าง คนที่กำลังเขียนไม่หนักกว่าหรอ ? / แปลเสร็จ ส่งพิมพ์ได้ทั่วโลก โอกาสดีกว่าคนเขียน ซะอีก
เอิ่มๆๆ
แดนอรัญ แสงทอง
https://youtu.be/kfndkxHGljo
ไม่ใช่คับ คนไทยเขียนไปเป็นภาษาอังกฤษเลย เลยไม่ต้องแปลก็มีอยู่บ้าง แต่สถิติก็น่าเศร้าจริงๆ
รัฐบาลก็มีแต่พวกแก่สมองกลวง คิดได้แต่เรื่องกินงบ
อยากให้มีนิยายไทยสนุก ๆ (แนวแฟนตาซี) ขายมั่งจัง (หรือถ้ามีแนะนำผมหน่อย) ผมเคยอ่านแต่ของอังกฤษ
0:01 ไม่แปลกเลยที่จะมีหนังสือแปลจากญี่ปุ่นเยอะ ทั้งมังงะเอย, นิยายเอย แต่ละเรื่องขายดี๊ดี มีหลายสตูดิโอนำไปทำเป็นอนิเมะ จึงไม่แปลกเลย ที่หนังสือญี่ปุ่นจะขายดีมากมายเช่นนี้
เมื่อผมพึ่งกลับมาสหรัฐหลายปีแล้วพยายามหางานอย่างนี้แต่ส่วนมากคบริษัทระบุว้าแปลต้องเป็นคนไทยพื้นเมือง ฉะนั้นผมไปทำงานโปรแกรมเมอร์เทนครับ ตอนนี้รู้สึกว่าทักษะของผมในงานแปลภาษาไทยลดลงมากเกินไปครับ
ให้นักเขียนไทยที่รู้ภาษาอังกฤษดีเป็นคนเขียนหนังสือเป็นภาษาอังกฤษเลย
ไทยขึ้นชื้อเเต่อาหาร, นวด, กะหรี่, มวยไทย, เเละลิซ่าเเต่หนังสือกับภาพยนตร์ไม่ไปในชักที่
เรื่องที่สำคัญที่สุดมันคือ บุคลิกภาพ การยอมรับและความเคารพ จากผู้คน
ฟังดูแล้วอย่าตกใจ มันน่ากลัว แต่มันเป็นความจริง
ทำไมหนังสือญี่ปุ่นจึงมีการแปลเป็นภาษาต่างประเทศอันดับหนึ่ง ของโลก
คำตอบคือ
หนึ่ง คนทั่วโลกยอมรับว่าบุคลิกภาพนิสัยความ
รับผิดชอบ
ที่โดดเด่นที่สุดในโลกซึ่งเป็นที่ยอมรับเพียงชาติเดียวตั้งแต่ในอดีตจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
คือความชื่อสัตย์ต่อตนเอง
ต่อสังคมต่อประเทศชาติ
ความชื่อสัตย์และมีความตั้งใจจริง
มีความอดทนที่สูงสุด
มีความพยายามอย่างที่ไม่มีชาติใดจะเทียบได้
มีจิตสำนึกของความยอมแพ้ให้ล้มพังทลายไปขนาดไหนก็จะลุกขึ้นมาทำจนสำเร็จ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ
แม้กระดาษแผ่นเดียวก็สามารถที่จะพับขึ้นมาเป็น
รูปเป็นร่างได้อย่างละเมียดละไมอย่างที่ไม่มีชาติใดจะทำได้
ที่มีการปลูกฝังตั้งแต่เด็กแรกเกิดกันทีเดียวเรียกได้ว่า
เด็กญี่ปุ่นนั้นเมื่ออายุสามขวบอยู่ในชั้นอนุบาลแล้วก็จะมีสามัญสำนึกในความรับผิดชอสังคม
มีจิตสำนึกของความยอมแพ้ให้ล้มพังทลายไปขนาดไหนก็จะลุกขึ้นมาทำจนสำเร็จ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ
แม้กระดาษแผ่นเดียวก็สามารถที่จะพับขึ้นมาเป็น
รูปเป็นร่างได้อย่างละเมียดละไมอย่างที่ไม่มีชาติใดจะทำได้
ที่มีการปลูกฝังตั้งแต่เด็กแรกเกิดกันทีเดียวเรียก
ได้ว่า
เด็กญี่ปุ่นนั้นเมื่ออายุสามขวบอยู่ในชั้นอนุบาลแล้วก็จะมีสามัญสำนึกในความรับผิดชอบสังคม
มีความคิดอ่านที่ฉลาดเฉียบแหลมเช่นเดียวกับ ผู้ใหญ่ในประเทศอื่นๆทีเดียว
ความเอาจริงและความชื่อสัตย์และความมั่นคงในหน้าที่การงาน
การ ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากทุกชนชาติในโลก
จนกระทั่งประสบความสำเร็จในด้านอุตสาหกรรม
ธุรกิจในทุกสาขา
ทุกประเภท ในทุกประเทศ
ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบจริงๆ
จากความสำเร็จนี้
ทำให้มนุษย์เรามีความเชื่อมั่นในชนชาติญี่ปุ่นเป็น
อันดับหนึ่งของโลก
และนี่คือเหตุผลที่คนจะสนใจและเชื่อและต้องการที่จะรู้ต้องการที่จะอ่านงานเขียนงานคิดและผลงานทุกอย่างที่มาจากคนญี่ปุ่นเมื่อมีลูกค้ามากชนชาติ ทุกชนชั้น ในทั่วโลก
เมื่อมีลูกค้ามากชนชาติ ทุกชนชั่น ในทั่วโลกการแปลหนังสือญี่ปุ่นมาเป็นภาษาทุกภาษาในโลกนี้จึงเกิดขึ้น
เพราะเค้าจะพูดถึงความสำเร็จในชีวิตการงาน ถ้าจะพูดถึงเรื่องรักในชีวิตความรักอาโนเนะ
ถ้าจะพูดถึงความบ้าระห้ำสู้ไม่ถอยของของ
สัญชาตญาณ
ถ้าจะพูดทุกความสนุกล้นเลยโลก
ถ้าจะพูดถึงเช็กซี่จนหักห้ามใจไม่
หยุด
ถ้าจะพูดถึงอร่อยรสชาติที่ลืมไม่ลง
ถ้าจะพูดถึงศิลปะงดงามปราณีตสุดยอด
แล้วถ้าจะพูดถึงนวัตกรรมวิทยาศาสตร์
คอมพิวเตอร์อุตสาหกรรมที่ล้ำเลิศ
และประสิทธิภาพสงสดเข็นที่น่าเชื่อถือของโลก
เพราะเค้าจะพูดถึงความสำเร็จในชีวิตการงาน ถ้าจะพูดถึงเรื่องรักในชีวิตความรักอาโนเนะ
ถ้าจะพูดถึงความบ้าระทำสู้ไม่ถอยของของ
สัญชาตญาณ
ถ้าจะพูดทุกความสนุกล้นเลยโลก
ถ้าจะพูดถึงเซ็กซี่จนหักห้ามใจไม่
หยุด
ถ้าจะพูดถึงอร่อยรสชาติที่ลืมไม่ลง
ถ้าจะพูดถึงศิลปะงดงามปราณีตสุดยอด
แล้วถ้าจะพูดถึงนวัตกรรมวิทยาศาสตร์
คอมพิวเตอร์อุตสาหกรรมที่ล้ำเลิศและประสิทธิภาพสูงสุดเป็นที่น่าเชื่อถือของโลก ทุกอย่างมีรวมอยู่ในความเป็นญี่ปุ่น