ไฮไลท์ของ Hyundai PALISADE ขุมพลังดีเซล 2.2 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (รุ่น Prestige) และขับเคลื่อน 2 ล้อ (รุ่น Exclusive) มาพร้อมระบบความปลอดภัย Hyundai SmartSense™ เช่น ระบบเตือนและช่วยเบรกอัตโนมัติ และระบบกล้องมองภาพมุมอับสายตา ห้องโดยสารแบบ 3 แถว พร้อมจอแสดงผล Supervision Cluster 12.3 นิ้ว และเครื่องเสียง Infinity Premium Sound System 12 ลำโพง นับเป็นมิติใหม่ของตลาด SUV เมืองไทย ด้วยสนนราคา 2,499,000 บาท รุ่น Prestige และ 2,299,000 บาท สำหรับรุ่น Exclusive
ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย จัดตั้งอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เมื่อเดือนเมษายน 2566 ในฐานะบริษัทในเครือของฮุนได มอเตอร์ โดยมีเป้าหมายในการเป็นผู้ให้บริการด้านโมบิลิตี้ นอกจากนั้นยังนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์และรองรับทุกไลฟ์สไตล์ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน ด้วยผลิตภัณฑ์ด้านการสัญจรที่ครบถ้วนทุกมิติ และพร้อมดูแลผู้บริโภคชาวไทย ในฐานะเพื่อนร่วมทาง
กลางเดือนพฤศจิกายน 2567 ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย จัดกิจกรรมทดลองขับสำหรับสื่อมวลชน ให้โอกาสเราได้สัมผัสตัวเป็นๆ และสมรรถนะการขับขี่ของรถอเนกประสงค์รุ่นล่าสุดที่นำเข้ามาจากโรงงานประกอบในเวียดนามมาจำหน่ายในบ้านเรานั้นคือ Hyundai PALISADE ท่ามกลางความหลากหลายของเส้นทางจากใจกลางเมืองหลวงไปกลับจังหวัดนครนายก
ตลอดเส้นทางทดลองขับผมและบัดดี้น้องอุ้มรัก แม้ระยะทางจะไม่มากมายนักแต่เราได้เผชิญกับเส้นทางที่แตกต่างตั้งแต่ทางด่านมอเตอร์เวย์จนถึงทางซอยเข้าร้านอาหาร ตลอดจนภูมิประเทศรวมถึงสภาพอากาศช่วงปลายฝนต้นหนาวที่หลากหลาย ช่วยขับเน้นให้เราสามารถเข้าถึงสมรรถนะของ Hyundai PALISADE ทั้งด้านการตอบสนองการขับขี่ที่ทำได้ดีเกินคาด รวมถึงความสะดวกสบาย เรายังมีโอกาสได้ลัดเลาะไปตามทางหลวงชนบทบริเวณอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่น้อย เพื่อพิสูจน์การควบคุม เสถียรภาพการทรงตัว และความคล่องตัวของรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่อย่าง PALISADE
ในส่วนของดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Premium Parametric Shield เพิ่มความเข้มดุดันด้วยการตกแต่ง Dark Metallic Chrome สอดรับกับไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED เส้นสายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมไฟส่องสว่างแบบ Full LED ทั้งด้านหน้าและหลัง การออกแบบไม่เหมือนรถอเนกประสงค์ทั่วไปให้ทั้งความสวยงามและปลอดภัย ลงตัวด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว กับยางขนาด 245/50R20
Hyundai PALISADE มีโครงสร้างตัวถังแบบ Monocoque Structure ที่ให้ประสิทธิภาพแห่งการควบคุมที่ให้ตัวยืดหยุ่นได้มากกว่ารถอเนกประสงค์แบบมีแชสชี่ ให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ และให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงระหว่าง 12-13 กิโลเมตรต่อลิตร ผ่านการลดน้ำหนักเครื่องยนต์และการสั่นสะเทือน เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ PALISADE มาพร้อมขุมพลังดีเซล 2.2 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,750 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะมาพร้อม Paddle Shift หลังพวงมาลัย เพื่อการตอบสนองการขับที่แม่นยำเร้าใจ สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลตัวนี้เป็นบล๊อคเดียวกับที่ใช้อยู่ใน MPV ทรงอวกาศอย่าง STARIA แต่ได้รับการจูนอัพให้มีกำลังมากกว่า พร้อมกับปรับอัตราทดเกียร์รวมถึงเฟืองท้ายที่แตกต่างเพื่อให้เหมาะกับลักษณะอยู่ตัวรถแบบ SUV ขนาดใหญ่
พร้อมกับ DRIVE MODE สามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ตามความต้องการ ตั้งแต่ Comfort , Eco , Spot และ Smart ที่มีการตอบสนองการขับขี่แตกต่างกันพอสมควรพร้อมๆ กับกราฟสีสันบนจอหน้าปัดที่บ่งบอกโหมดที่ใช้อยู่ปัจจุบัน สำหรับรุ่น Prestige มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อม Terrain Move เลือกปรับให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวการขับขี่พร้อมลุยทุกไปทั้งในและนอกเส้นทาง ขณะที่วันนั้นผมได้ลองรุ่น Exclusive มีระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่ให้ความสมดุลทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางระหว่างเมือง เปิดรับทุกความเป็นไปได้ในชีวิต
Hyundai PALISADE เจ้าของรางวัลระดับโลกมากมาย ภายในห้องโดยสาร Hyundai PALISADE ผสานความหรูหราเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย มาพร้อมกระจกมองหลังแบบไร้ขอบ Frameless พร้อมตัดแสงอัตโนมัติ คอนโซลกลางแบบ Bride-type ให้ทั้งอรรถประโยชน์และภาพลักษณ์เรียบหรู มาพร้อมที่ชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย และช่องวางแก้วน้ำทุกที่นั่ง มีเบาะนั่ง 3 แถว เบาะแถวที่ 1 และแถวที่ 2 แบบ Captain Seat สามารถปรับอุณหภูมิได้ทั้งอุ่นและเย็น มอบความสะดวกสบายในทุกสภาพอากาศ เบาะผู้ขับขี่มีระบบบันทึกตำแหน่งที่นั่ง เข้าออกเบาะที่นั่งแถว 3 ได้สะดวก และพื้นที่กว้างขวางพอสำหรับผู้ใหญ่ รวมๆ แล้วภายในกว้างขวางเหมาะสำหรับทุกระยะการเดินทาง ทั้งยังมาพร้อมหน้าจอแสดงผลการขับขี่ความละเอียดสูงแบบ Supervision Cluster 12.3 นิ้ว ระบบเครื่องเสียง Infinity Premium Sound System 12 จุด มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายสมเป็น Premium D-SUV
Hyundai PALISADE นำเสนอสองรุ่น ได้แก่ รุ่น PALISADE Prestige (4WD) ราคา 2,499,000 บาท และรุ่น PALISADE Exclusive (2WD) ราคา 2,299,000 บาท ส่วนต่างของราคา 200,000 บาท มีความแตกต่างที่เห็นชัดๆ คือ ซันรูฟคู่หน้า-หลัง เบาะนั่งหนังแท้ nappa และชุดขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีมาเฉพาะตัวเกรด Prestige ทั้งสองเกรดมาพร้อม 2 เฉดสี ได้แก่ Pearl White และ Space Black
การมาของ Hyundai PALISADE ถือเป็นก้าวสำคัญในการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของชาวไทย ด้วยการผสานความอเนกประสงค์ และสมรรถนะได้อย่างลงตัว ผมยังไม่อาจคาดหมายได้ว่า PALISADE จะสามารถปักหมุดสร้างความนิยมในตลาดเซกเมนต์ใหม่นี้ได้มั่นคงยืนยงนานนับทศวรรษเสมือนอย่างที่ H-1 เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในกลุ่มรถตู้อเนกประสงค์ก่อนจำต้องร้างลาไปตามอายุขัย แต่ขอย้ำว่าด้วยรูปสมบัติ และสมรรถนะแล้ว Hyundai PALISADE พร้อมสำหรับภารกิจสานต่อแบรนด์ฮุนไดในประเทศไทย เพียงแต่การตอบรับของตลาดรถยนต์ขาลงของบ้านเราจะเป็นเช่นไร อีกไม่นานคงได้รู้กัน
No Comments