วิธีเปลี่ยนนิสัยเพื่อพิชิตทุกเป้าหมาย สรุปหนังสือ Tiny Habits บทที่ 05
บทที่ 2 3 4 ของหนังสือพูดถึงวิธีสร้างนิสัยใหม่ไปแล้ว บทที่ 5 พูดถึงเรื่องการทำให้นิสัยใหม่ติดแน่นอยู่กับคุณ
ซื้อหนังสือ
Shopee https://atth.me/go/sM8JSGLU
Lazada https://atth.me/go/sn0qNhON
หลักการในหนังสือ เรียกว่าการออกแบบพฤติกรรม ซึ่งมี 7 ขั้นตอน คือ
1. ระบุเป้าหมายให้ชัดเจน
2. มองหาตัวเลือกพฤติกรรม
3. จับคู่ตัวเองกับพฤติกรรมที่ทำได้ง่าย
4. เริ่มต้นจากเล็กๆ
5. หาสัญญาณที่ดี
6. ฉลองความสำเร็จ
7. ขยายนิสัยดีๆ
คลิปนี้จะพูดถึงข้อ 6 คือ การฉลองความสำเร็จ
วิธีทำให้นิสัยใหม่คงอยู่ในชีวิตคุณ คือ การฉลองความสำเร็จ คือการทำให้ตัวเองมีอารมณ์เชิงบวกทันที หลังการทำพฤติกรรมที่ต้องการ
อารมณ์เชิงบวกจะกระตุ้นให้สมองสร้าง “โดพามีน” ซึ่งเป็นสารที่ทำหน้าที่ให้รางวัลในสมอง ส่งผลให้สมองรับรู้และบันทึกว่าพฤติกรรมนั้นเป็นเรื่องที่ดี ทำให้สร้างนิสัยขึ้นมาได้
จะเห็นว่าความรู้สึกดีมีส่วนสำคัญมากในการสร้างนิสัย ซึ่งเป็นทั้งข่าวดีและข่าวร้ายครับ
ข่าวร้าย คือ สมองไม่สนใจว่าความรู้สึกดีๆ นั้นมาจากนิสัยที่ดีหรือไม่ดี เช่น การกินเค้ก ไก่ทอดหนังกรอบๆ หมูสามชั้น หรือการเล่นวิดีโอเกมหลายๆ ชั่วโมง ให้ความรู้สึกดีสุดๆ แต่นี่คือนิสัยที่ไม่ดีต่อคุณในระยะยาว
ส่วนข่าวดี คือ เราสามารถจงใจสร้างความรู้สึกดีขึ้นมาหลังจากทำนิสัยที่ต้องการ เพื่อหลอกสมองให้สร้างนิสัยได้ด้วย
วิธีสร้างความรู้สึกดีของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ เช่น บางคนอาจกำมือแล้วยกแขนขึ้นมา บางคนพูดว่าเย้ หรือสำเร็จแล้ว เยี่ยมไปเลย หรืออื่นๆ
จะพูดออกมา หรือจะพูดในใจก็ได้ บางคนอาจร้องเพลงที่ชอบ บางคนจินตนาการว่ามีการจุดพลุฉลอง บางคนแค่ยิ้มก็รู้สึกดีแล้ว
ตัวอย่างของผม คือ ผมร้องเย้ สำเร็จแล้วในใจ และจินตนาการว่ามีการจุดพลุฉลอง อลังการแบบงานปีใหม่ มันทำให้รู้สึกแฮปปี้สุดๆ
ตรงนี้ต้องหาให้เจอว่าทำแบบไหนแล้วคุณรู้สึกดี หรือรู้สึกประสบความสำเร็จครับ
อีกจุดที่สำคัญ คือ ต้องสร้างความรู้สึกดีทันทีหลังจากที่คุณทำพฤติกรรมนั้น เพื่อให้สมองสร้างโดพามีนออกมา
การออกกำลังในตอนเช้าแล้วให้รางวัลตัวเองในตอนเย็นไม่ได้ผลในการสร้างนิสัย เพราะกิจกรรมกับรางวัลอยู่ห่างกันเกินไปจนสมองไม่สามารถเชื่อมโยงได้ครับ
จะทำยังไงถ้าคุณสร้างความรู้สึกดีไม่ได้
เพราะ Tiny Habits เน้นให้ทำสิ่งเล็กๆ ง่ายๆ ทำให้บางคนคิดว่า ไม่เห็นจะน่าดีใจตรงไหน
แต่เค้าบอกว่าจากจุดเล็กๆ จุดเดียวจะทำให้คุณเปลี่ยนนิสัยใหญ่ๆ ได้ นี่มันคือการเปลี่ยนนิสัยเลยนะ ไม่ใช่ใครๆ ก็ทำได้ ทำไมถึงไม่ควรค่าแก่การฉลองหละ
การฉลองความสำเร็จ หรือทำให้ตัวเองรู้สึกดีเป็นทักษะ ถึงแม้ว่าแรกๆ คุณจะไม่อินเลย แต่ทำไปเรื่อยๆ มันจะมีความรู้สึกดีเกิดขึ้นครับ
ผม คือ คนสรุป ขอเสริมด้วยข้อมูลจากคุณหมอ Maxwell Maltz ว่า สมองไม่สามารถแยกเรื่องจริงกับเรื่องที่จินตนาการที่เราเห็นภาพชัดเจนได้
ดังนั้นถ้าคุณไม่สามารถรู้สึกดีหลังจากทำนิสัยเล็กๆ ได้จริงๆ ให้ลองฝึกจินตนาการว่าตัวเองดีใจ เปล่งประกาย หรือเห็นภาพพลุเต็มท้องฟ้า หรือจินตนาการถึงเรื่องอื่นๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกดีก็น่าจะช่วยได้ครับ
ทำยังไงให้เกิดนิสัยใหม่เร็วขึ้น
การสร้างนิสัยเป็นทักษะ เพราะฉะนั้นคุณสามารถฝึกซ้อมได้ เริ่มจากทำพฤติกรรมปักหมุด แล้วก็นิสัยใหม่
ผมพูดเรื่องพฤติกรรมปักหมุดในบทที่ 4 แต่ทบทวนสั้นๆ คือ มันคือพฤติกรรมที่คุณทำเป็นประจำในชีวิตประจำวัน ซึ่งคุณจะเอานิสัยดีๆ ที่ต้องการทำมาทำต่อท้ายมัน
ยกตัวอย่างการฝึกซ้อมนิสัย สมมุติว่าผมอยากฝึกสมาธิ ก็จะซ้อมแบบนี้
เมื่อผมนั่งลงบนเก้าอี้ ผมจะจดจ่อกับลมหายใจเข้า 1 ครั้ง ออก 1 ครั้ง หลังจากนั้นจะจินตนาการเห็นพลุเต็มท้องฟ้า เพราะมันทำให้ผมรู้สึกดีสุดๆ ถือว่าจบ 1 รอบ
หลังจากนั้นผมจะยืนขึ้น นั่งบนเก้าอี้ จดจ่อกับลมหายใจ แล้วก็จินตนาการถึงพลุ เป็นอันจบอีก 1 รอบ
ทำแบบนี้ 7 – 10 ครั้ง นิสัยใหม่ก็จะเกิดเร็วขึ้นครับ หนังสือไม่ได้บอกว่าต้องทำต่อเนื่องกันกี่วัน แต่ผมเดาจากสไตล์ของเค้า ก็น่าจะเป็นเอาเท่าที่คุณสะดวกครับ
ถ้านิสัยอยู่ในชีวิตประจำวันแล้ว จำเป็นต้องสร้างความรู้สึกดีๆ อีกรึเปล่า
ถ้านิสัยเกิดขึ้นแล้วคุณไม่จำเป็นต้องสร้างความรู้สึกดีอีกต่อไป ยกเว้นว่า
• มีเหตุที่ทำให้คุณไม่ได้ทำนิสัยนั้นซักพัก เมื่อกลับมาทำพฤติกรรมที่ต้องการใหม่ ก็ควรสร้างความรู้สึกดีเพื่อนำมันกลับมาในชีวิตอีกครั้ง
• คุณต้องการเพิ่มความยากให้นิสัยนั้น เช่น จากวิดพื้น 1 ครั้ง เพิ่มเป็นวิดพื้น 5 ครั้ง เพราะการทีมันเจ็บ หรือทำยากขึ้น จะทำให้สมองแก้โปรแกรมเพื่อให้คุณหลีกเลี่ยงพฤติกรรมนั้น ดังนั้นก็ต้องสร้างความรู้สึกดีขึ้นมาเพื่อให้สมองรักษานิสัยนั้นต่อไปครับ
สุดท้าย คุณจะรู้สึกดีกับอะไรก็ได้
ถ้าคุณทำพฤติกรรมดีๆ ระหว่างวัน คุณก็สามารถสร้างความรู้สึกดีให้ตัวเอง เพื่อให้สมองจำนิสัยนั้นได้ด้วย คือ พอคุณรู้ตัวว่าทำเรื่องดีๆ ปุ๊ป ก็จุดพลุทันทีเลย ทำแบบนี้บ่อยๆ คุณก็จะค่อยๆ กลายเป็นคนที่ดีขึ้น มองโลกในแง่ดีขึ้น เพราะมัวแต่สนใจอยู่กับอารมณ์ดีๆ แทนที่จะเป็นอารมณ์ด้านลบครับ
No Comments