ศาสตราจารย์ พญ.อุมาพรตรังคสมบัติ แนะนำหนังสือ “สร้าง E.Q. ให้ลูกคุณ”

28 กุมภาพันธ์ 2559



โดย ศ.พญ. อุมาพร ตรังคสมบัติ

ติดตามบทความดีๆ เทคนิคการเลี้ยงลูก หรือข่าวสารเกี่ยวกับการอบรมสัมมนา และกด Like & Share บทความต่างๆ ได้ที่ :

https://www.facebook.com/newlifebydr.umaporn/?fref=ts

และ http://www.dr-umaporn.com

—————————————————————————————–

2 Comments

  • @niini2i2p 16 พฤษภาคม 2559 at 09:40:11

    ขอบคุณคุณหมอมากๆ ค่ะ ที่ทำหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา เป็นหนังสือที่ช่วยชีวิตของหนู และเปลี่ยนชีวิตของหนูไปเลยก็ว่าได้ค่ะ

    พอดีพ่อแม่เป็นคนมั่นใจในตัวเองมากๆ ค่ะ เขาเรียนเกี่ยวกับ บริหารการศึกษา เป็นครูทั้งคู่และอ่านจิตวิทยามามากมายพอสมควร และมีหนังสือเล่มนี้ที่บ้านค่ะ

    หนูได้หยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่าน แล้วหนูก็นั่งร้องให้ทุกครั้งๆ ที่เปิดอ่าน เพราะมันทำให้หนูฝัน ว่าถ้าหากหนูเกิดมาใหม่อีกครั้ง หนูจะมีพ่อแม่ที่เข้าใจหนูแบบในหนังสือเล่มนี้ไหม

    หนูถามพ่อว่า อ่านจบแล้วรึยัง ท่านบอกว่าอ่านจบแล้ว
    แต่วิธีการเลี้ยงลูกของเขา ไม่ได้ดีขึ้นเลย ไม่สามารถให้กำลังใจหรือเติมเต็มความรักให้หนูได้ หนูรู้สึกว่าตัวเองไม่เท่าเทียม ไม่ได้รับความรักที่เพียงพอ เหมือนเป็นเครื่องมือเชิงพาณิชย์ตลอดเวลา

    หนูก็เลยเอาไปให้แม่อ่าน บอกแม่ว่า มันดีมากเลยนะ ร้องให้ทุกครั้งที่อ่านเลย แม่ก็หยิบมาอ่าน 1 หน้า แล้วแม่ก็บอก "อืม ซาบซึ้งใจ" แล้วก็จบเพียงเท่านั้น

    ความฝันจะมีพ่อแม่ที่เข้าใจและสนับสนุนอนาคตที่ดีหายไปในพริบตา

    หนูอยากจะเกิดใหม่มีแม่แบบคุณหมอ เพราะหนูเองเลือกเกิดไม่ได้
    จู่ๆ หนูก็เกิดมา แล้วพ่อแม่ก็เค้นจะเอาเกรด จะเอาบ้านสะอาด จะเอานั่นจะเอานี่ ในขณะที่ความรักหนูก็ไม่เคยได้

    หนูอยากตายตั้งแต่ยังไม่เข้า ม.1(หนูจำได้ดี)
    แต่หนูอ่านหนังสือเล่มนี้ หนู "จินตนาการ" ว่า "ถ้าคุณหมอเป็นแม่ของหนู คุณหมอจะพูดอะไรกับหนูบ้าง"
    มันทำให้หนูมีกำลังใจจะมีชีวิตอยู่ต่อไป

    หนูเป็นคนๆ เดียวในบ้านที่รับฟังปัญหาทุกอย่างจากแม่ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นหนูอายุยังไม่ถึง 10 ขวบ
    หนูเป็นแรงบัลดาลใจในการใช้ชีวิตให้น้องชาย

    แต่ไม่ใช่ว่าการจินตนาการพ่อแม่ขึ้นมาในหัวมันจะเพอเฟค
    หนูออกจากบ้านมาใช้ชีวิตตามลำพังหนูรู้สึกเหมือนตัวเองครอบครัวไม่มีปัญหาเลย
    เพียงแต่ว่า ทุกครั้งที่พ่อแม่ โทรเข้ามา หรือทักทายเข้ามา
    ความแค้นฝังหุ่น ทุกอย่างที่เขาทำ คำโกหก ปิ้นปล้อน และความเห็นแก่ตัวของพวกเขา
    ไม่เคยหายไปจากใจหนูเลย หนูอยากจะบอกว่า เขาไม่ใช่พ่อแม่หนูซักหน่อย
    แต่ก็ได้แต่นั่งเจ็บแค้นตามลำพัง และนิสัยช่วงนั้นจะแกว่งไปสักพักนึงเลย

    แปลกตรงที่หนูอยู่กับคนอื่นหนูดูเป็นคนน่ารัก หนูไม่ได้พูดเองหรือกุเรื่องขึ้นมาเองนะ มีคนบอกแบบนั้นจริงๆ อย่างป้าผู้ดูแลหอ หรือคุณครูที่โรงเรียน

    แต่หนูก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมอยู่กับพ่อแม่ ต้องก้าวร้าว ขึ้นเสียงตลอด อาจจะเป็นเพราะความแค้น เมื่อคุยครั้งนึง จะรู้สึกโกรธ แค้น ไปร่วมๆ 2-3 ชั่วโมงหลังจากคุยเลย เสียการงานเอามากๆ ค่ะ บางครั้งก็คุยได้ บางครั้งก็แค้น อยู่ที่ว่าจะไปกระตุกแผลในวัยเด็กขึ้นมาอีกครั้งรึเปล่า

    ล่าสุดก็รับรู้ได้ว่านิสัยของเขาที่ไม่เคยแก้เลย ขี้โกหกยังไงก็โกหกอย่างนั้น ขี้ขโมยยังไง ก็ขี้ขโมยอย่างนั้น
    บ้าอำนาจ และชอบใช้กำลังข่มขู่ ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ผ่านมา 20 กว่าปี เขาก็ไม่เคยเปลี่ยนมันเลย

    พี่ชายก็มีลูกทั้งๆ ที่ไม่พร้อม แล้วก็ใช้วิธีเลี้ยงลูกเหมือนพ่อ ตอนแรกก็ตั้งตนบอกว่าไม่ชอบพ่อแม่นะ พอมีลูกก็เห็นดีเห็นงามไปกับพ่อหมดเลย ว่าเลี้ยงแบบนั้นแล้วเขาเชื่อฟัง เราดูก็รู้ว่าลูกๆ เขามีปัญหา ดื้อ และใช้กำลัง ใช้อารมณ์เหมือนพ่อเลย ส่วนลูกคนเล็ก ก็ร้องให้เงียบๆ และไม่ค่อยพูดอะไร แต่ร้องให้บ่อยมาก ร้องไม่มีเสียง แต่ร้องนานมากๆ

    พูดถึงพ่อ ต่อให้เรียน จิตวิทยามา เขาก็เลือกฟังแต่เกี่ยวกับด้านบริหาร ในการคุยกับคน ในเรื่องบุคลิก ส่วนในการเลี้ยงลูก เขาไม่เคยรับมันมาเลย

    ยิ่งเราได้ดี เก่ง เขาก็ยิ่งมั่นใจเต็มที่ว่าเขาเลี้ยงเรามาถูกต้อง ยิ่งเสริมอีโก้ของเขาเข้าไปใหญ่ ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ พูดอะไรก็มองว่าเราเด็ก อ้างว่า ถ้าเรามีลูก เราก็จะเห็นด้วยในวิธีการเลี้ยงลูกของเขา ยกพี่ชายขึ้นมาอ้าง

    โดนพูดแบบนี้ก็รู้สึกเหมือนโดนท้าทายเหมือนกันนะ แต่เราก็จะยังมีลูกไม่ได้ ต้องทำงาน หาเงิน
    ถ้ามีลูก น้องชายจะเป็นยังไง ลูกสาวของพี่ชายที่มีปัญหาอยู่แล้วใครจะดูแล ทุกอย่างเราต้องทำแข่งกับเวลา เรามีลูกไม่ได้ ไม่ได้ขี้ขลาด แต่มันไม่ใช่ความต้องการของเราตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ถ้ามีลูกเพื่อเอาชนะพ่อแม่ เราไม่เอา เราจะมี ด้วย ความ รัก เท่านั้น

    อีกเรื่องเป็นเรื่องสุดท้ายจริงๆ พ่อมีอะไรก็โทษแม่ตลอด แม่หนูน่าสงสมารมากค่ะคุณหมอ คล้ายๆ ว่าจะเป็นวิตกกังวล มองอะไรก็แย่ไปหมด อย่างหนูไปทำงานก็เอาแต่พูดว่าจะโดนข่มขืนบ้างล่ะ ผู้ชายเห็นแล้วเกิดความต้องการทางเพศบ้างล่ะ ทั้งๆ ที่หนูไม่ได้แต่งตัวโป๊นะ
    จะทำงานก็บอกว่าอันตรายบ้างล่ะไม่น่าไว้วางใจบ้างล่ะ ขับรถก็ไม่ให้ขับ
    ไปต่างประเทศก็ไม่ให้ไป กลัวเครื่องบินตก กลัวแผ่นดินไหว
    บอกให้เลิกกับพ่อก็ไม่เลิก กลัวไปเจอคนที่แย่กว่า กลัวลูกๆ จะเจอแม่แย่ๆ แล้วชีวิตจะลำบาก
    สุดท้ายแม่ก็ต้องทนรับกรรม เป็นแพะตลอดชีวิตแล้วก็มีอารมณ์เหวี่ยง
    เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวเงียบ หนูอยากคุยกับเขาค่ะ แต่พอเขาเป็นแบบนี้ เลยไม่กล้าคุย
    ถ้าหนูไม่มีอะไรต้องรับผิดชอบแล้ว ถึงตอนนั้นหนูอาจจะคุย แต่ความเป็นห่วงไม่เคยหายไปค่ะ

  • @smopuim8 3 พฤษภาคม 2563 at 23:35:39

    หมอครับ ถ้าคนที่อายุเยอะแล้ว ยังสร้างeq ได้อยู่มั้ยครับ ขอบคุณมากครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *